torsdag 17. oktober 2013

ฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง+แรงบันดาลใจ

Update 21 oct.14

เรื่องทั้งหมดที่เขียนเป็นปสก.การฝึก เรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง ของเราเองนะจ๊ะ 

          เราเป็นคนชอบเรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่เด็กน้อยจนถึงประถม และเริ่มไม่ชอบตั้งแต่มัธยมถึงมหาลัย อาจเป็นเพราะครูก็ได้ที่ทำให้เราเกลียดภาษาอังกฤษไปเลย แต่เราก็มีความฝันที่อยากจะไปใช้ชีวิตต่างประเทศ ฟังดูเหมือนง่ายเนอะ ก็ได้ยินคนเค้าพูดๆ กันเยอะไปทำงานต่างประเทศบลาๆ ก็เลยฝันลมๆ แร้งๆ บ้าง 

          เริ่มวางแผนเก็บเงินในบัญชีเดือนละนิดเดือนละหน่อย หลังจากจบมหาลัยฯ ก็ทำงานเรื่อยๆ กินประหยัด บางวันก็ห่อข้าวไปกินที่ทำงาน เดินให้มากกว่านั่งรถ คือประหยัดให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่เราก็ช้อปปิ้งและกินบ้างแต่ไม่บ่อย ทีนี้ทำไงต่ออีกล่ะ ภาษาอังกฤษก็ยังปลวกจะไปทำอะไรได้ เจอฝรั่งทีวิ่งหนีหางจุกตูดเลย จะอ้าปากพูดสักคำก็กลัวแล้ว... ก็ไปหาซื้อหนังสือฝึกภาษาอังกฤษมาอ่าน อ่านจริงๆ ค่ะ อ่านผ่านไปผ่านมา ไม่ค่อยจะเข้าหัวเท่าไหร่ จะไปเข้าคอร์ส ก็ไม่มีปัญญาจ่ายราคาแพงเป็นแสน



          อยู่มาวันนึง นั่งรถไฟฟ้าบีทีเอสไปทำงาน ฝั่งตรงข้ามเป็นสาวไทยมีแฟนเป็นคนฝรั่ง พูดภาษาอังกฤษคล่องป๋อ แต่ดูภายนอกดูเหมือนคนไม่มีการศึกษาเลย..(ขอโทษที่ต้องเขียนคำนี้นะคะ แต่เราได้แรงผลักดันจากเค้าจริงๆ ความทะเยอทะยานอยากได้อยากดี
 กำเนิดขึ้น) 

แล้วเราก็มองกลับมาที่ตัวเอง เอ๊ะ! นี่เราจบตั้งมหาลัยฯ ท่าทางเราก็ดูดีกว่าเค้านะ แต่ทำไมเราโง่จังเลยอ่ะ?  คำถามนั้นเกิดขึ้นมาในหัว เราก็กลับมานั่งคิดวนไปวนมา ว่าทำไมมันเป็นแบบนี้

          จนคิดได้ว่า เราต้องหาวิธีการเรียนภาษาอังกฤษให้ได้อย่างจริงจัง กลับมาถึงบ้านเซิสเว็บอากู๋นี่แหละ เซิสประมาณว่า "อยากฝึกภาษาอังกฤษทำยังไง?" ก็มีหลายเว็บเลยแนะนำเกี่ยวกับเว็บเดท ตอนแรกก็มองข้ามเว็บเดทนะคะ ก็คิดว่าไร้สาระมาก ก็ไปฝึกเว็บทั่วๆ ไปที่เค้าเขียนพวกเทคนิคต่างๆ ไว้ ฟัง mp3 บทสนทนาภาษาอังกฤษบ้าง ก็ฟังผ่านๆ ผ่านไปก็เริ่มไม่ค่อยจะได้ดีมากเท่าไหร่นัก
  

          เอาวะ ลองสมัครเว็บเดทดูก็ได้มันก็ไม่ได้เสียหายอะไรนี่ฟรีด้วย เห็นเค้าแนะนำกันจังเลย ลองสักตั้ง สมัครมันทุกเว็บเลยค่าาาาา.... แปลไม่ออกก็ก็อปปี้ไปแปลในกูเกิ้ลนี่แหละ ตอนที่ต้องใส่รายละเอียดเกี่ยวกับตัวเอง หรือใส่รายละเอียดของผู้ชายในเสป็ค เล่นไปรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง ส่วนใหญ่...ไม่รู้เรื่องค่ะ

          จนเรามีเว็บในใจประมาณ 2 เว็บ เพราะมันดูเล่นง่ายดี ไม่สับซ้อนนัก เราสามารถส่งข้อความไปหาผู้ชายได้ และคุยกันส่งไปส่งมา หรือจะแจกอีเมล์หรือสไกด์อะไรก็ได้ตามใจ แต่เราต้องระวังตัวเองด้วย เพราะในอินเตอร์เน็ตมันมีพวกหลอกลวงเยอะ ไหนจะพวกโรคจิตชอบโชว์ แต่เราไม่เคยเจอพวกหลอกลวงหรอก ส่วนใหญ่เจอแต่พวกชอบโชว์ :P



          สมัครแรกๆ ก็มีคนคุยด้วยเยอะดีค่ะ แต่หลังๆ ก็เริ่มหายไปทีละคนสองคนจนหมด ก็ต้องหาคนคุยด้วยใหม่ เพราะคุยกันไม่รู้เรื่อง ได้แต่คำว่า yes , no , ok และ หัวเราะ hehe, haha ตอนนั้นยอมรับเลยว่าโง่มากๆ แต่เราก็เริ่มได้คำศัพท์ใหม่ๆ จากคนที่เราแชทด้วยนะ เพราะเราต้องก๊อปปี้ประโยคหรือคำศัพท์ไปแปลในกูเกิ้ลบ่อยๆ มันก็เริ่มซึมเข้ามาในหัวสมองทุกวันๆ เล่นได้ประมาณ 2 เดือน ก็ได้เจอกับแฟน เค้าสามารถคุยกับเราได้นาน และเข้าใจภาษาโง่ๆ ของเราแบบไม่เหนื่อย นับถือจริงๆ (ฝึกภาษา ฝึกไปฝึกมาได้แฟนมาเป็นของแถมเฉยเลย)

          ต่อมา...เราก็บอกกับตัวเองว่า เฮ๊ย! เราต้องทำอะไรสักอย่างแล้วนะ เพื่อเราจะได้คุยกับเค้ารู้เรื่อง แบบที่คนเค้าคุยกัน เราก็เริ่มฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเองอย่างจริงจังอีกครั้ง แต่คราวนี้ขั้นซีเรียสเลย



1 หาหนังสือสอนภาษาอังกฤษเก่าๆ ที่ซื้อไว้หรือหนังสือสมัยมัธยมก็ได้กลับมาอ่านใหม่หลายๆ รอบ และทำความเข้าใจกับมัน

2 อ่านแกรมม่า และทำความเข้าใจกับมัน คร่าวๆ พอ :D (เราคิดมันไม่จำเป็นนักหรอก แต่จริงๆ มันก็จำเป็นแหละ แต่เอาเหอะ ให้มันพูดสนทนาได้ก่อนพอแล้ว)

3 ท่องคำศัพท์ เวลาแชทเราจะได้คำศัพท์ใหม่ๆ ก็จดไว้ทำคล้ายๆ บัตรคำศัพท์ ฝึกจำ และใช้บ่อยๆ


ทุกวันนี้เราอยู่นอร์เวย์ ต้องเรียนภาษานอร์เวย์ 
เราก็ยังใช้วิธีเดียวกัน กับตอนฝึกภาษาอังกฤษ

ตัวอย่าง การทำบัตรคำศัพท์ 
        (1) ตัดกระดาษตามขนาดที่ต้องการไม่ใหญ่ไปไม่เล็กไป 
        (2) ด้านหน้าเขียนคำศัพท์ 1 แผ่นต่อ 1 คำ
        (3) ด้านหลังเขียนคำแปล (ทำแบบนี้สัก 50 แผ่น กี่ปึ๊งก็แล้วแต่) 
        (4) เย็บรวมกัน เวลาไปไหนมาไหนก็ง่ายต่อการหยิบอ่าน

4 ฟัง mp3 บทสนทนาภาษาอังกฤษ และอ่านตาม ออกเสียงตาม ให้ได้สำเนียง (ทำบ่อยๆๆๆๆๆ)

       เว็บที่ใช้ฝึกภาษาอังกฤษ และสามารถดาวโหลด mp3 มาช่วยในการฝึกฟัง ฝึกสำเนียง ......
       (1) http://www.goethe-verlag.com/book2/TH/index.htm
       (2) เลือก ภาษาไทย >> EN ภาษาอังกฤษ UK
       (3) ดาวโหลด mp3 คลิก เลข 2 ด้านหน้า



5 ดูหนังฝรั่ง พร้อมกับซับอังกฤษ หรือซับไทยก็แล้วแต่ ฝึกฟังสำเนียงและ ฝึกอ่าน แต่ตอนฝึกฟังก็ทำลำพังจะดีที่สุด ถ้ามีคนอื่นอยู่ด้วยเดี๋ยวเค้าจะด่าเอาเพราะความรำคาญ :D (ทำบ่อยๆ) 

          ข้อ 3 กับ ข้อ 4 สามารถทำตอนอยู่นอกบ้านได้ เช่น นั่งรถตู้ รถเมล์ รถไฟฟ้า เป็นต้น ทำแก้เซ็งเวลารถติด ฟัง mp3 ฟังจนจำได้ขึ้นใจเหมือนกับเวลาเราฟังเพลงค่ะ จะสามารถจำเนื้อความได้และร้องได้ คล้ายๆ กันค่ะ



          ผ่านไป 3 เดือน กับการฝึกภาษาอังกฤษอย่างหนักด้วยตัวเอง อยากบอกว่ามันได้ผลจริงๆ นะคะ แฟนบอกว่า ไม่น่าเชื่อว่าภาษาอังกฤษของเราพัฒนาไปได้อย่างรวดเร็ว เราเลยบอกว่า "ก็ใช่สิ เพราะชั๊นอยากจะคุยกับเธอให้รู้เรื่องแบบคนกับคนคุยกันน่ะ"  ตอนนี้เรามั่นใจในการพูดภาษาอังกฤษเยอะขึ้น ไม่กลัวฝรั่ง ไม่วิ่งหนีฝรั่งแบบแต่ก่อน มีแต่วิ่งเข้าหาเลยค่ะ ชอบช่วยพวกฝรั่งหลงทางสนุกดี ^_^

         แต่ตอนนี้เราไม่ได้ฝึกภาษาอังกฤษต่อแล้ว เราต้องเรียนภาษานอร์เวย์เพิ่ม แต่เราก็ใช้หลักการเดียวกันกับการฝึกภาษาอังกฤษ แต่บอกเลยว่าภาษานอร์เวย์ยากกว่าภาษาอังกฤษเยอะเลยค่ะ 

          ลืมเล่าเกี่ยวกับเงินในบัญชี....ในตอนนั้นที่เรามีแฟน เราก็ยังเก็บเงินเหมือนเดิมจากการทำงาน และประหยัดอดออมได้ประมาณแสนบาท เนื่องด้วยเป้าหมายที่เราวางไว้ว่าอยากใช้เงินนี้ไปต่างประเทศตั้งแต่ต้น เราต้องสนองมันค่ะ ตอนเราย้ายมานอร์เวย์เราใช้เงินของตัวเองทำวีซ่า จ่ายค่าตั๋วเครื่องบินเองหมดเลย เรารู้สึกว่าเราภูมิใจและประสบความสำเร็จในตัวเองค่ะ



         จงถามตัวเองว่า...อยากเก่งไหม? อยากมีอนาคตไหม? ถ้าคุณไปสมัครงานแล้วคุณพูดภาษาอังกฤษได้หรือภาษาไหนก็เหอะ คุณจะมีเงินเดือนสูงกว่าคนอื่น หรือคนอาจจะเป็นคนแรกๆ ที่บริษัทต้องการ

           ใครๆ ก็ฝันลมๆ แล้งๆ ได้ แต่ถ้าคุณอยากให้ฝันนั้นเป็นจริง เริ่มเลยค่ะ เริ่มตั้งแต่วันนี้ วางแผนตัวเอง ว่าควรทำอะไรก่อน ศึกษาวิธี หรือเขียนแผนการไว้ในกระดาษก่อนก็ได้ เชื่อค่ะว่าทุกคนสามารถทำได้ 

          ทุกสิ่งทุกอย่างตั้งอยู่บนพื้นฐานของหลักความจริงและความเป็นไปได้ค่ะ ขอให้ทุกคนที่อ่านบทความนี้โชคดีและประสบความสำเร็จที่ตัวเองวาดฝันเอาไว้นะคะ 


จะประสบความสำเร็จได้
ถามตัวเองก่อนว่า คุณทำดีที่สุดแล้วรึยัง?

บทความแนะนำ โดย All about Norway
คลิกที่ลิ๊งด้านล่างได้เลยจ้า 

การเรียนภาษา

การหางาน และ นาฟ

วีซ่า

ความรู้ทั่วไป

รีวิว ที่เที่ยวใน Oslo