søndag 17. januar 2016

เรียนภาษาให้เก่งเร็วๆ กับแนวคิด

เทคนิคการเรียนภาษาให้เก่ง เรียนให้ได้ไวๆ



การเรียนภาษา ทำได้อย่างไร
          ทุกคนมักจะเคยได้ยินว่า ''คนอายุมาก มักจะเรียนภาษาได้ยากกว่าเด็ก...''

          ยกตัวอย่างเช่น เด็กจะเรียนภาษาในทางที่แตกต่างจากผู้ใหญ่ คือ เด็กจะเรียนในทางที่ง่ายๆ เริ่มจากการพูด ก่อนการเขียน และจะฝึกจากการได้ยินเสียง โดยไม่คำนึงว่ามันเขียนหรือสะกดยังไง พูดง่ายๆ คือ ไม่ต้องนึกถึงอย่างอื่น นอกจากการฟังและพูด

          เด็กไม่มีข้อสงสัย ในการพูดผิด หรือพูดถูก อย่างผู้ใหญ่ และเมื่อผู้ใหญ่เรียนภาษาใหม่ ส่วนมากมักจะเรียนแบบละเอียดถี่ถ้วน ตั้งคำถามตลอดเวลาว่า ทำไม? อะไร? ยังไง? ทำให้หลายคนคิดว่า ต้องรู้คำศัพท์ให้ได้ดีก่อน ถึงจะกล้าพูดออกไป และผู้ใหญ่จะออกเสียงให้ถูกต้องนั้นก็ยากด้วย

          ในขณะเดียวกัน เด็กจะพูดไปเรื่อยตามที่ต้องการ โดยไม่กังวลอะไรทั้งนั้น และอีกอย่างหนึ่ง เด็กเรียนภาษาแบบสนุกเหมือนของเล่น จึงไม่ต้องเครียดเอาเป็นเอาตายอย่างผู้ใหญ่


          นักภาษาศาสตร์ หลายคนกล่าวไว้ว่า  เด็กสามารถเรียนภาษาใหม่ได้อย่างคล่องแคล่ว ก่อนอายุ 12 ขวบเต็ม พอหลังจากนั้น ก็จะเรียนภาษาใหม่ได้ยากแล้ว....เนื่องจาก เด็กเริ่มเปลี่ยนความคิดให้เป็นผู้ใหญ่มากยิ่งขึ้นและเล่นน้อยลง

          ถ้าอยากเรียนภาษาให้ได้ไวๆ และดีขึ้น เราต้องคิดให้ได้อย่างเด็ก!! อย่าไปกลัวว่าจะพูดผิดหรือพูดถูก พูดไปเถอะ เพ้อเจ้ออะไรก็ตามใจ ไม่ต้องอายสำเนียงไทย เหนือ อีสาน ใต้ ด้วย

เราสามารถเรียนภาษาได้เร็วแค่ไหน?
          คำถามยอดฮิตเลย เรียนกี่ปี ถึงจะพูดได้ บลาๆๆๆ ก่อนอื่นเราต้องถามตัวเองก่อนว่า....



- เคยไป รร. ทั้งชีวิตมากี่ปี (พื้นฐานการเรียนหนังสือ)
- เคยเรียนภาษาอื่นมาก่อนหรือเปล่า
- เข้าใจแกรมมาติกในภาษาไทยมากแค่ไหน (ภาษาแม่)
- เขียนหนังสือได้ดีในภาษาแม่หรือไม่
- ได้ใช้ภาษานอร์เวย์ นอกห้องเรียนรึเปล่า
- เรียนภาษามานานแค่ไหนแล้ว
- มีการตอบสนองอย่างไร เมื่อรู้ว่าการเรียนภาษานอร์เวย์มันยากเหลือเกิน
- อ่าน นสพ.ภาษานอร์เวย์ / ฟัง-ดู ข่าวนอร์เวย์ บ้างรึเปล่า
- มีแรงบันดาลใจมากพอที่จะเรียนภาษานอร์เวย์
- ได้รับการสนับสนุน ส่งเสริม ในการเรียนภาษามั๊ย

          ถ้าใครเคยเรียนภาษาอื่นมาก่อน เมื่อมาเรียนภาษานอร์เวย์แล้ว มันจะเรียนได้ง่ายและเร็วขึ้น เพราะเราสามารถเข้าใจโครงสร้างของภาษาได้เป็นอย่างดี ว่าเป็นไปอย่างไร และเราก็จะชินกับการเรียนคำใหม่โดยอัตโนมัติ



          มีความรู้เรื่องแกรมมาติกภาษาแม่(ภาษาไทย) มากแค่ไหน เพราะมันเป็นจุดสำคัญของการภาษานอร์เวย์ให้ได้ไวขึ้น ถ้าใครไม่ได้แกรมมาติกในภาษาแม่ ต้องเรียนเพิ่มอย่างเยอะเลย เพราะมันจำเป็นมากๆ ที่เราจะเข้าใจจากพื้นฐานแกรมมาติกภาษาแม่ สู่การเรียนภาษาใหม่ 

          ปัจจัยการเรียนภาษาให้ได้เร็วๆ คือ มีโอกาสได้ใช้ ได้พูดนอกห้องเรียนหรือไม่ มันเป็นสิ่งสำคัญที่เราได้ใช้บ่อยๆ พูดทุกวัน และวันนึง เราจะพูดได้อย่างน้ำไหลไฟดับ โดยไม่ต้องคิดเยอะเลย 

          เมื่อเราย้ายมาอยู่ประเทศใหม่ เจออะไรใหม่ สังคมใหม่ คนใหม่ สถานที่ใหม่ ระบบใหม่ และวัฒนธรรมใหม่ เหมือนเป็นโลกใหม่เลยก็ได้ เราต้องเรียนรู้ ทำตัวให้กลมกลืนกับมัน ถึงแม้จะต้องใช้เวลาก็ตาม และบ่อยครั้งทำให้เรามีเวลาในการเรียนภาษาน้อยลง

          บนพื้นฐานจากความเป็นจริง เราไม่ควรจะผิดหวังในความพยายามของตัวเอง พอใจในสิ่งที่เราทำได้ และโฟกัสในสิ่งที่เราทำไม่ได้ให้น้อยลง



          อีกปัจจัยสำคัญในการเรียนภาษา คือ การอ่านหนังสือ ถ้าเราเป็นคนอ่านหนังสือน้อยในภาษาแม่ตัวเอง มันจะทำให้เป็นเรื่องหนัก ในการอ่านหนังสือในภาษานอร์เวย์ด้วยเช่นกัน

          นักวิจัย กล่าว่า คนที่ชอบอ่านหนังสือ จะทำให้เก่งง่ายในเรื่องการเขียน เพราะฉะนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้ที่พยายามอ่านเยอะๆ ถึงแม้จะไม่เข้าใจคำทั้งหมดที่อ่านก็ตาม แต่เราก็สามารถเดาคำศัพท์ เดาเรื่องราวต่างๆ จากเรื่องที่อ่านได้

          แนะนำให้เพื่อนๆ พกสมุดจดเล่มเล็กๆ ไว้เล่มนึง คอยจดคำใหม่ๆ นิดๆ หน่อย อ่านๆ ท่องๆ ทุกวัน เวลาเดินทาง นั่งรถสาธารณไปไหนมาไหน อ่านก่อนนอนบ้าง ถ้าไม่มีเวลา วันละ 5 นาทีก็ยังดี มันช่วยได้นะ ขอบอก

         เป็นอย่างไรบ้างคะ เพื่อนๆ กระจ่างไหมเอ่ย ได้ข้อคิดใหม่ เกี่ยวกับการเรียนภาษาให้เก่งไวบ้างรึเปล่า แอดมินคิดว่า มันมีประโยชน์มากและทำให้เราเก็ทอะไรหลายๆ อย่าง แบบว่า อ๋อ...มันเป็นแบบนี้เอง

          บทความนี้ แอดมินแปลและเรียบเรียง ในสไตล์ของแอดมินเลย ที่ชอบอธิบายแบบเคลียร์ๆ เพื่อเพื่อนๆ เข้าใจกันได้ง่ายๆ นะคะ ขอบคุณหนังสือ Går det bra. มากค่ะ



บทความแนะนำ โดย All about Norway
คลิกที่ลิ๊งด้านล่างได้เลยจ้า 

การเรียนภาษา

การหางาน และ นาฟ

วีซ่า

ความรู้ทั่วไป

รีวิว ที่เที่ยวใน Oslo

onsdag 13. januar 2016

แนะนำเว็บหาเพื่อน หาแฟน หาคู่ และเทคนิคไม่ให้โดนหลอก

หาคู่ หาเพื่อน หาแฟน ต่างชาติ

แอดมินได้คำถาม คำถามนึงบ่อยมากเลย คือ
เธอ...หาแฟนฝรั่งให้หน่อยได้ปะ 

          โอย...เป็นคำถามที่น่าเบื่อที่สุดในโลกเลยจ้าาาา ยิ่งบางคนนะ ไม่เคยได้รับการสนทนาติดต่อมาเป็นเวลานาน อยู่ๆ นางก็พิมพ์มาหาด้วยคำถามนี้ คือ แบบเซ็งมากเคอะ 

เรา             :          ทุกครั้งที่ตอบไปก็คือ เล่นเว็บไซค์เดทติ้งดิ
คนอื่น        :          ไม่เอา กลัวอะ
เรา             :          ยังไม่ทันจะลองเลย ก็กลัวแล้ว ถ้าเล่นแบบมีสติ ไม่มีจะมีอะไรน่ากลัวเลยสักนิด

          นึกในใจ ขี้เกียจหาเองละสิ มาให้เดี๋ยนหาให้ ฝันไปเถอะ บอกปัดหมดอะ แหม...จะมานั่งอยู่เฉยๆ แล้วฝรั่งมันจะลอยมาเหรอ ขนาดฝรั่งผลไม้ เธอยังต้องออกไปเดินตลาด เลือกๆๆ จ่ายตังเองเลย

          แต่สมัยเดี๊ยนเล่น เดี๊ยนเล่นเพราะอยากฝึกภาษากับชาวต่างชาติ ไม่ได้กะจะหาสามี คือ มันฟลุ๊ค ได้เป็นของแถมมา ก็เลย เลยตามเลย

         เอางี๊ เข้าเรื่องเลยดีกว่า ขี้เกียจจะบ่นแล้ว ที่นี้ก็มาแนะนำเว็บไซค์เดทติ้งกันดีกว่า และเทคนิคการเล่นแบบฉลาดๆ ไม่ให้โดนเค้าหลอก

1. www.interpals.net หลายภาษา ทั่วโลก เป็นแบบเขียนจดหมายสนทนากัน ไม่จำเป็นต้องหาคู่
2 www.thaifriendly.com ฝรั่งส่วนใหญ่จะอยู่ไทย ไม่ก็มาเที่ยวไทยบ่อย
3 www.dateinasia.com รวมผู้หญิงทั่วโลก ไม่ใช่แค่สาวไทยอย่างเดียว
4 www.thaiflirting.com สำหรับสาวไทยที่หาหนุ่มฝรั่ง
5 www.datingdna.com
6 www.dating.co.th
7 www.thaikisses.com
8 www.thailovelines.com
9 www.match.com  

          เว็บที่ได้มานี่ก็เซิสจากกูเกิ้ลเอา ถ้าใครอยากได้มากกว่านี้ ก็เซิสเอาเองว่า ''หาคู่ต่างชาติ'' มันก็จะขึ้นมาเพียบ ที่นี่ก็เลือกตามใจชอบ

          พอเลือกเว็บเดทติ้งได้แล้ว เราก็จะมาทำการลงทะเบียน ชื่ออะไร บลาๆ ลักษณะ ชอบคนแบบไหน คุณเป็นคนแบบไหน ฯลฯ เสร็จแล้วก็เลือกรูปที่คิดว่างามที่สุดในสามโลก

          อ้อ บางเว็บต้องกรอกเป็นภาษาอังกฤษ อันไหนไม่เข้าใจ ก็ก๊อปไปแปลในกูเกิ้ลเอาเน้อ

          เสร็จแล้วก็ลองเล่นดู ว่ามีใครออนไลด์บ้าง คุยๆๆๆๆๆ แต่ที่นี้ที่จะมาบอกเทคนิคไม่ให้ถูกหลอกคือ 

1. เล่นอย่างมีสติ  ค่อยๆ คุย ทำความรู้จักกันไป ไม่ต้องรีบ!! คุยไปเลย กี่สิบคนก็คุยไป คัดกรองไปด้วย

2. ไม่หลงเชื่อคำพูดจากตัวหนังสือ หรือคนที่เพิ่งคุย หรือคำพูดหวานเว่อ เช่น Darling I love you. , เธอสวยจัง, ตาเธอช่างเซ็กซี่แต่งงานกัน บลาๆๆ เป็นต้น

3. ไม่เป็นคนขี้สงสาร เช่น เมียตาย อยู่กับลูกสองคน ลูกป่วย ส่งเงินมาให้หน่อย... หรือ นี่ชั๊นกำลังส่งของไปให้เธอ แต่ต้องเสียค่าปรับ ขอยืมเงินก่อน บลาๆๆๆๆ อะไรที่พูดเกี่ยวกับเงินอะ เลิกคุยไปซะ อย่าเห็นว่า อ่อ..ต้องลงทุนเพื่อหาแฟนฝรั่ง ไม่ใช่เลย ผิด!!

4. โรคจิต โชว์ของลับเยอะมาก ระวัง!! หรือถ้าชอบ ก็โชว์กลับ แล้วแต่...

5. อย่าหลงเชื่อรูปโปรไฟล์หล่อๆ คุณสมบัติเทพๆ แม่ม ก๊อปรูปชาวบ้านมาหลอกทั้งนั้น เค้าเรียกว่าพวก สแกมเมอร์ เบื้องหลังคอมฯ เป็นคนดำนั่งเล่นหลอกกันเป็นแก๊ง และสาวไทยก็โดนหลอกเยอะมาก!!

6. นัดเจอกันในที่โล่งแจ้ง ระมัดระวังตัวตลอดเวลา ไม่ไปต่อที่ห้องผู้ชาย ถ้าคุณไม่อยากโดนฟันแล้วทิ้ง แต่ถ้าคุณอยากก็เชิญ ทำตัวให้มีค่านิดนึง สาวไทย (บางเคสอยากจับผู้ชาย ปล่อยท้อง พอผู้ชายรู้ หนีเลยจ้า)

7. ฝรั่งที่อยู่ไทย หรือ ไปกลับไทยบ่อยๆ พูดภาษาไทยได้ ต้องระวังนิดนึง เพราะพวกเค้าจะรู้อยู่ในหัวว่า สาวไทยเป็นอย่างนั๊น เป็นอย่างนี้ ง่าย อยากได้ฝรั่ง เป็นต้น อันนี้พูดเรื่องจริง แต่ไม่ได้หมายถึงทุกคน แต่ก็เยอะนะ

คนดีๆ หล่อๆ โปรไฟล์ดีๆ ก็มี แต่หายาก ฉะนั๊น สติค่ะสติ สำคัญที่สุด

          มีประโยชน์มั๊ย? แอดมินหวังว่าจะมีประโยชน์ต่อสาวไทยหลายๆ คนที่คิดอยากมีแฟนฝรั่งกันนะคะ

         จะบอกอะไรให้ฟังอีกนิดนึงนะ  ที่นอร์เวย์ ที่ที่แอดมินอยู่ มีคนหย่ากันครึ่งๆ เลยทีเดียว และเรื่องราวของสาวไทยก็ได้ยินมาเยอะมาก เช่น โดนทำร้ายทางร่างกาย, ทำร้ายทางจิตใจ, เห็นแก่ตัว, นอกใจ บ้างมีเมียไทยอยู่บ้านเดียวกัน แต่ยังแชทกับสาวไทยอื่นอีก, ติดสุรา ฯลฯ และการที่จะหย่ากันนั้นก็ไม่ง่ายด้วย ต้องทำเอกสารแยกกันอยู่ก่อน 1 ปี ถึงจะหย่าขาดกันได้ 

          ฉะนั๊น จะเกลียด อยากจะหย่าแบบเป็นผลทันทีนั้นไม่ได้ ก็ต้องทน กันต่อไป แต่ถ้ามีงานสามารถเลี้ยงดูตัวเองได้ ก็ออกไปหาที่อยู่เอง แต่ถ้าไม่มี ก็ต้องพบเจอกับความลำบากมากมาย ยิ่งถ้ามีลูกอีก ไม่ต้องพูดถึง ไหนจะต้องขึ้นศาล บลาาๆๆๆ เยอะ!!! 

          หลายคนบอกว่า เพิ่งอกหักจากชายไทยมา เบื่อชายไทย บลาๆๆ อยากหาชายต่างชาติ .... จะบอกว่า ผู้ชายก็คือ ผู้ชายจ้า ไม่ว่าจะชาติไหน มันก็มีดี มีเลว ปนกันไปทุกที่ ทั่วโลกล่ะค่ะ คิดให้ดีๆ แล้วกันนะจ๊ะ
คุณมีความพร้อมแค่ไหน?
- พร้อมกับผลหรือปัญหาที่ตามมา ว่ามันไม่ได้สวยหรูไปซะหมด
- พร้อมกับวัฒนธรรมที่โคตรจะแตกต่างจากเมืองไทย
- พร้อมกับการสื่อสารที่แตกต่าง จะอธิบาย จะด่า ใช้ภาษาก็ลำบาก
- พร้อมกับการเริ่มนับศูนย์ใหม่ เมื่อไปเรียนภาษา และหางาน
- พร้อมกับอากาศที่หนาวเย็น หิมะตก พื้นเป็นน้ำแข็ง ลื่นล้ม
- พร้อมกับการที่ใส่แต่เสื้อกันหนาวและเสื้อหลายๆ ชั้นเป็นเวลาหลายเดือน
- พร้อมกับการที่ไม่สบายบ่อย เพราะอากาศ
- พร้อมกับการที่หาอาหารไทยอร่อยๆ ได้ยาก และหาไม่ได้ทุกอย่างที่อยาก
- พร้อมกับความรู้สึกที่อยากกลับเมืองไทย
- พร้อมกับการอยู่กับสามี โดยที่ครอบครัวตัวคุณอยู่เมืองไทย
- พร้อมกับการสละตำแหน่งหน้าที่การงานดีๆ จากเมืองไทย
- พร้อมกับการทำงานที่ไม่เลือก เช่น งานทำความสะอาด ถึงคุณจะจบสูงมาจากไหนก็ตาม
- พร้อมกับความเท่าเทียมกันของผู้หญิงและผู้ชาย
- พร้อมกับการจ่ายเงินค่าใช้จ่ายต่างๆ ร่วมกัน
- พร้อมกับการอดทน ได้กับทุกๆ สิ่ง

ถ้าคุณพร้อมกับทุกข้อ 
ก็แสดงว่าคุณพร้อมที่จะมีคู่ครองเป็นฝรั่งในต่างแดนได้

โชคดีนะคะ ทุกท่าน

mandag 7. desember 2015

การจดทะเบียนสมรส กับ ''ชาวนอร์เวย์'' ที่ไทย

กรุณาติดต่ออำเภอก่อนว่า ทางอำเภอต้องการเอกสารอะไรบ้าง เพราะแต่ละอำเภอ ใช้เอกสารต่างกัน
และติดต่อ UDI.No เพื่อความชัวร์



ขอบคุณ Khunnuu และ คุณ เสาวณี 

สำหรับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ขออนุญาตรวบรวมไว้ที่นี่นะคะ



สำหรับคนที่ต้องการแต่งงานที่ประเทศไทย



          จดทะเบียนสมรสกับชาวนอร์เวย์ที่ไทย ต้องให้ฝ่ายชายว่าที่สามี อ่านเอกสารทั้งหมด และ ทำตามขั้นตอนอย่างเคร่งครัด ที่เวปไซต์นี้ค่ะ http://www.emb-norway.or.th/…/bista…/Ekteskap/thaiekteskap/…

          ทางแฟนของคุณจะต้องติดต่อกับ skattekontoret ที่นอร์เวย์ เพื่อขอ เอกสารต่างๆ ต่อไปนี้

1. "Certificate of no Impediment to Marriage" (på norsk "Attest til bruk for ekteskapsinngåelse etter utenlandsk rett" tidl. kalt "Ekteskapsattest คือ ใบรับรองสถานภาพความเป็นโสดของแฟนคุณ ใบนี้ ทางไทยเราเป็นฝ่ายบังคับให้มี เพื่อรับรองว่าผู้ชายโสดจริงๆ(เค้าออกเป็นภาษาอังกฤษให้ได้) 

2. Erklæring fra brudefolkene før prøving av ekteskapsvilkårene for den part som er bosatt i Norge (registrert i Folkeregisteret) คือ ใบที่ทางฝ่ายชายจะต้องชี้แจงรายละเอียดส่วนตัวว่า เค้าเคยแต่งงานมากี่ครั้งอย่างไร และทางเราคือ ภรรยาไทย ต้องเซ็นต์รับทราบในใบนี้ด้วย ว่ารับรู้ว่าเค้าเคยแต่งงานมาก่อน และมีลูกมาก่อน รวมถึงทางฝ่ายชายจะต้องแจ้งให้ทราบในใบนี้ด้วยว่าเค้าเป็นโรคติดต่อร้ายแรงหรือไม่ ถ้าเป็น ทางคุณก็จะต้องเซ็นต์รับทราบตรงนี้ด้วยว่า รับรู้ว่าเค้ามีโรคติดต่อร้ายแรง

3. Forlovererklæring ใบนี้คือ เพื่อนเจ้าบ่าว (หญิงหรือชายก็ได้) เซ็นต์เป็นพยานรับรู้ว่ารู้จักฝ่ายชาย ว่าเค้าเคยแต่งงานมาก่อนหรือไม่ และจะแต่งงานกับใคร และว่าการแต่งงานที่จะเกิดขึ้นไม่ได้เกิดขึ้นระหว่างญาติใกล้ชิดกับญาติใกล้ชิดอะไรประมาณนี้

4. Passport สำเนาหนังสือเดินทางฝ่ายชาย

5. Skilsmisseattest ใบหย่า (ถ้าหากเค้าเคยสมรสมาก่อน)

6. Skifteattest ถ้ามี ใบรับรองว่าบ้านที่เค้ามีที่นี่เป็นของเขาคนเดียว (เป็นใบที่บอกว่าบ้านที่มีอยู่เป็นของเขาคนเดียว ทางอดีตภรรยาไม่มีสิทธิใดๆ) 

7. Erklæring om skifte แบบฟอร์มใบชี้แจงเรื่องกรรมสิทธิ์ของบ้าน (กรณี พึ่งหย่าได้ไม่เกิน 2 ปี ทางอดีตภรรยาของเค้าจะต้องเซ็นต์ในใบนี้ด้วย, ถ้าหากหย่ามานานเกินกว่า 2 ปี ทางฝ่ายชายสามารถเซ็นต์คนเดียวได้

8. Opplysninger om tilkommende ektefelle (เป็นแบบฟอร์มเกี่ยวกับรายละเอียดส่วนตัวของฝ่ายหญิง ซึ่งทางแฟนคุณจะต้องกรอกใบนี้ ไปด้วยว่า เค้าจะแต่งงานกับใคร ชื่อะไร วันเดือนปีเกิด ที่อยู่ รายละเอียดเกี่ยวกับคุณ (ใบนี้ยื่นพร้อมๆ กับใบจากข้อ 1)

9. Bekreftelse på inntekt fra arbeidsgiver eller ligningskontor (ligningsattest for det siste året) หนังสือรับรองรายได้จากนายจ้างของฝ่ายชาย กรณีแฟนคุณ ก็ต้องใช้ใบแสดงภาษีรายได้ปีล่าสุด

10. Originale pass for begge partner หนังสือเดินทางของทั้งสองฝ่าย

          ส่วนเอกสารของฝ่ายหญิงก็จะต้องมี ใบรับรองความเป็นโสด (เป็นภาษาอังกฤษ) ซึ่งจำเป็นต้องให้ สถานกงสุลไทย ประทับตรารับรอง และสำเนาหนังสือเดินทาง ที่ยื่นที่เขตของฝ่ายชายที่มีถื่นที่อยู่ในนอร์เวย์ก่อน เพื่อจะได้รับเอกสาร ใบรับรองโสดของฝ่ายชาย กับหลักฐานต่างๆ ที่แจ้งมาทั้งหมดนี้

          เอกสารทุกอย่างนี้ของฝ่ายชายต้องพร้อม แล้วจึงยื่นสมัครขอจดทะเบียนสมรส โดยกรอกแบบฟอร์มที่ชื่อ Marriage application และยื่นต่อสถานทูตนอร์เวย์ในไทย ซึ่งในแบบฟอร์มนี้ ทางฝ่ายชายต้องกรอกชื่อพยานรับรู้ขอสมัครแต่งงานครั้งนี้จำนวน 2 คน ซึ่งต้องมีที่อยู่ (ถิ่นพำนัก)ที่ประเทศนอร์เวย์

          หลังจากที่สถานทูตลงลายมือชื่อและประทับตราในใบสมัครของแต่งงานนี้แล้ว คุณจะต้องนำใบนี้ไปแปลเป็นภาษาไทย และรับรองการแปลที่กรมการกงศุล กระทรวงต่างประเทศ แล้วจึงไปจดทะเบียนสมรสที่อำเภอได้

          เพิ่มเติม มีข้อยกเว้น แต่เขาไม่ค่อยเอามาบอกกัน เรื่องการจดทะเบียนหย่า ที่ไม่เกิน 2 ปี ต้องให้ ฝ่ายหญิงรับรอง ถ้าทนายความ ที่ทำเรื่องเอกสาร มีการบันทึก สินสมรส ที่ถูกแบ่งไปแล้ว ก่อนเอกสารหย่าจริงจะออกมา และ ทะเบียนบ้าน ใบซื้อขายบ้าน มีชื่อฝ่ายชายคนเดียว มันไม่ต้องให้ฝ่ายหญิงเซ็นต์ เพราะถือว่า ไม่มีอะไรติดค้างกัน ...เขาจะดูจาก เอกสารประกอบ และ เกี่ยวกับศาล หรือ ระยะเวลา การแยกกันอยู่ รวมถึง ทนายที่บันทึกด้วย




บทความเชื่อมโยง
- จดทะเบียนสมรสที่ไทยแล้ว ต้องขอวีซ่าอะไร?

บทความแนะนำ โดย All about Norway
คลิกที่ลิ๊งด้านล่างได้เลยจ้า 

การเรียนภาษา

การหางาน และ นาฟ

วีซ่า

ความรู้ทั่วไป

รีวิว ที่เที่ยวใน Oslo

lørdag 5. desember 2015

การทำหนังสือเดินทางไทย (สำหรับคนอยู่นอร์เวย์)


หากหนังสือเดินทางใคร เหลือน้อยกว่า 6 เดือนก็ไปทำได้เลยค่ะ

การทำพาสปอร์ตไทย ที่ประเทศนอร์เวย์
เข้าไปจองเวลาในเว็บไซด์ ของสถานทูตไทย
http://www.thaiembassy.no/consular/การทำหนังสือเดินทาง



การเดินทางไปสถานทูตไทย ใน Oslo ประเทศนอร์เวย์



หากภาพเล็กไป สามารถคลิกให้มันใหญ่ได้ค่ะ















เช็คลิสต์
สำหรับอายุ 20 ปีขึ้นไป

o    บัตรประจำตัวประชาชน + สำเนา 1 ชุด ที่ยังไม่หมดอายุ
o    หนังสือเดินทางเล่ม + สำเนาหน้าแรก 1 ชุด
o    สำเนาทะเบียนบ้านไทย
o    อื่นๆ ถ้ามี สำเนาใบเปลี่ยนชื่อและนามสกุล ,  สำเนาทะเบียน สมรสทะเบียนหย่า
o    คำร้องนิติกรณ์เพื่อทำหนังสือเดินทาง เขียนได้ที่สถานทูต

  • เงินสด 300 Nok ถ้วน


ถ้าบัตรประชาชนหาย หรือ หมดอายุต้องทำบัตรใหม่ก่อน ไม่ต้องจองเวลา เข้ามาทำได้เลย จันทร์-ศุกร์ 9.00-12.00 *


  1.    ถ้าบัตรหมดอายุ    สามารถเข้ามาทำบัตรได้  
หรือ ต่อบัตรได้ก่อนบัตรหมดอายุได้ 60 วัน โดยไม่มีค่าธรรมเนียม
          o     นำบัตรใบเดิม พร้อมสำเนา 1 ชุด
2.    กรณีบัตรหายหรือถูกทำลาย ค่าธรรมเนียม 25 kr
          o     เตรียมเอกสารประจำตัว ที่มีภาพถ่ายซึ่งออกโดยหน่วยราชการไทย เช่น หนังสือเดินทาง หรือใบขับขี่ พร้อมสำเนา 1 ชุด
          o     สำเนาทะเบียนบ้าน  1 ชุด

          o     หลักฐานการเปลี่ยนชื่อหรือนามสกุลจากเขต หรืออำเภอ พร้อมสำเนา 1 ชุด

_________________________________________________________________________





สำหรับผู้ที่อายุน้อยกว่า 20 ปี

o    สำเนาสูติบัตรไทย
o    สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
o    สำเนาทะเบียนบ้านของผู้เยาว์, ของพ่อ และแม่
o    สำเนาทะเบียนสมรสของพ่อและแม่
o    สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน+หนังสือเดินทางไทยพ่อและแม่
o    หนังสือเดินทางเล่มเก่า พร้อมถ่ายสำเนาหน้าแรก
o    สำเนาเอกสารแสดงอำนาจการปกครองบุตร (ปค.14) 
o    เอกสารอื่น ๆ ถ้ามี เช่น ใบเปลี่ยนชื่อ หรือนามสกุล


พ่อแม่ต้องมาลงนามต่อหน้าจนท.ด้วย
*ถ้าพ่อแม่มาไม่ว่าง ต้องทำหนังสือมอบอำนาจและให้ความยินยอม โดยต้องไปลงนามต่อจนท. เขต อำเภอ. หรือกองหนังสือเดินทาง

*ถ้าพ่อแม่อยู่เมืองไทย ต้องทำหนังสือให้ความยินยอม ให้บุตรทำหนังสือเดินทางผ่านกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ (กทม.) หรือผ่านที่ว่าการอำเภอ (ต่างจังหวัด)

*ถ้าพ่อแม่จดทะเบียนหย่าแล้ว ให้คนที่มีอำนาจปกครองบุตร เป็นผู้ลงชื่อในหนังสือยินยอมแต่เพียงผู้เดียว พร้อมแสดงหนังสือยืนยันอำนาจในการปกครองบุตร (เอกสาร ป.ค. 14)

*ถ้าพ่อหรือแม่เสียชีวิต ให้นำใบมรณะบัตรมาด้วย


______________________________________________


ส่งกลับทางไปรษณีย์
         หากไม่สะดวกมารับ เตรียมซองกันกระแทก ขนาด 20 * 27 ซม จ่าหน้าซองถึงตัวเอง ลงทะเบียนอย่างน้อย 210 kr มาด้วย

_____________________________________________

การเดินทางไปสถานทูตไทยในนอร์เวย์ Oslo
______________________________________________






บทความแนะนำ โดย All about Norway
คลิกที่ลิ๊งด้านล่างได้เลยจ้า 

การเรียนภาษา

การหางาน และ นาฟ

วีซ่า

ความรู้ทั่วไป

รีวิว ที่เที่ยวใน Oslo