การใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ ฟังดูเหมือนจะง่าย จะมีอะไรล่ะวันๆ ก็แค่อยู่ กิน นอน ใช้ชีวิต ก็น่าจะเหมือนประเทศไทยใช่มั๊ย? ไม่ค่ะ คิดผิดเลย การใช้ชีวิตอยู่เมืองนอกจริงๆ แล้วนั้นยากลำบากมาก คุณรู้มั๊ยว่าพวกเค้าต้องเผชิญอะไรบ้าง อากาศหนาว, สุขภาพ, ของแพง, อาหาร, ภาษา, ความเหงา, เพื่อน, ครอบครัว, งาน, คนดูถูก, คนนิสัยไม่ดี, สามีไม่เข้าใจ....
อากาศหนาว แรกๆ ก็เย็นสบายดีล่ะ พอเวลาผ่านไปสักปีแล้วจะรู้สึกว่า เฮ้อ..ต้องหนาวอีกแล้วเหรอนี่ ทรมานจริงๆ แถมหนาวนานอีกต่างหาก 10 เดือนแน่ะ... ไหนหิมะจะทำถนนเป็นน้ำแข็ง เดินก็ลำบาก ลื่นล้มเป็นว่าเล่น จะเดินใกล้ๆ อาคารก็ต้องระวังก้อนน้ำแข็งจะร่วงหล่นลงมาใส่หัวตาย จะขับรถก็อันตรายพื้นลถนนลื่น , ไหนผิวจะแห้งเป็นเกร็ดอีก คนนอร์เวย์ส่วนใหญ่ไม่ชอบฤดูหนาวและหิมะมากๆ พวกเค้าแพลนจะไปแก่อยู่เมืองไทยกันทั้งนั้น ทั้งอุ่น อร่อยและถูก
วิธีแก้ ใส่เสื้อผ้าหนาๆ ที่อบอุ่น, พื้นลื่นก็ซื้อที่กันลื่นมาสวมให้รองเท้า, หลีกเลี่ยงการเดินใต้อาคาร , ผิวแห้งก็พอกครีมเยอะๆ
วิธีแก้ ซื้อวิตามิน D, C, น้ำมันตับปลามากินด้วย ส่วนยาก็หิ้วมาจากไทยโหลดใต้เครื่องมาโลด เสื้อผ้าก็ใส่ให้อุ่นๆ และดูแลสุขภาพตัวเองดีๆ อย่าให้ป่วยบ่อยมันจะลำบาก
สินค้าราคาแพง ถ้าคุณมาอยู่ตปท. คุณจะคิดถึงประเทศไทยขึ้นมาทันทีในเรื่องนี้มากที่สุด อยู่ตปท. จะควักเงินซื้อของแต่ละอย่าง นั่งคำนวณแล้วคำนวณอีก คิดเป็นเงินไทยก็เสียดายเงิน เช่น มะละกอเมืองไทยลูกละ 10 บาท ตปท.ลูกละ 200 กว่าบาท กินไปแทบจะร้องไห้ไปเลยทีเดียว ประเทศไทยมีทุกอย่างที่อยากได้ ของแบรนด์ของก๊อปก็มีหลายเกรด ราคาก็ถูก
วิธีแก้ ซื้อของ ห้ามคำนวณเป็นเงินไทย หรือไม่ก็อดใจ กลับไปกินที่ไทยแทน
จากร้านอาหารจีน รสชาติไม่ผ่าน :(
วิธีแก้ ฝึกทำอาหารจากอินเตอร์เน็ต ทำไม่เป็นก็ต้องหัดทำ เพราะถ้าไม่ทำ ก็อดตาย :P
หนังสือที่นี่ราคาแพงมากๆ (แพงทุกอย่างอะ)
วิธีแก้ ตั้งใจเรียนภาษาทั้งในห้องเรียน และที่บ้าน พยายามพูดภาษานั้นบ่อยๆ กับแฟน กับเพื่อน และถ้าเจอพวกอีโก้สูง ก็ถอยให้ห่างจากมัน อย่าไปคบให้เสียเวลา
วิธีแก้ สมัยนี้มันก็ไม่ยากสำหรับการติดต่อสื่อสาร เช่น Facebook , Skype , Line , Viber , Tango เป็นต้น ไม่ก็หาเพื่อนใหม่ที่ต่างประเทศซะเลยง่ายดี จะได้เปิดโลกทัศน์ใหม่ๆ ให้กว้างขึ้นด้วย หรือถ้าอยากจะดูละครทีวีไทย ก็ดูได้ผ่านอินเตอร์เน็ตได้ไม่อยากเลยอันนี้
วิธีแก้ พยายามมีเพื่อน หรือมีคนรู้จักไว้เยอะๆ ถ้าคุณโชคดี พวกเค้าจะชักจูงคุณเผื่อได้งานในยามที่เค้าขาดคน และถ้าคุณได้ภาษาอังกฤษดีก็ยิงดี เพราะบางบริษัทพูดภาษาอังกฤษกัน เช่น งานวิศวกรน้ำมันเพราะมีคนต่างชาติทำงานน้ำมันเยอะ แต่คุณต้องจบสายที่เค้าต้องการด้วยนะ เงินโคตรดีอะ
วิธีแก้ ทำหูทวนลม และบอกขอบคุณค่ะ ไม่ก็ด่ามันเป็นไทยก็ได้ จะได้สะใจเราดี
คนนิสัยไม่ดี - ก็มีไปทั่วทุกที บางครั้งหลายคนอาจคิดว่า อยากหนีจากเมืองไทยมาอยู่ตปท. เพราะเมืองไทยมีคนเห็นแก่ตัวเยอะ ขี้นินทา นิสัยไม่ดี ดราม่า บลาๆๆ ....ตปท.ก็มีเหมือนกันนะเออ ส่วนใหญ่ที่เราเจอนี่จะเป็นคนต่างชาติที่อาศัยอยู่ที่นี่ ปากีฯ,โรมาเนีย พวกลี้ภัยมาฯลฯ เช่น แย่งที่นั่งในโรงอาหาร ถึงแม้เราจะเอากระเป๋าจอง , แย่งขึ้นรถสาธารณทุกประเภท , แย่งซื้อของ เป็นต้น คนเอเชียก็ใช่ย่อยนะ
คนนอร์เวย์ก็มี ยกตัวอย่างเด็กวัยรุ่น เรานั่งรถไฟฟ้า มันนั่งตรงข้ามเลย แม่ม...ยกเท้ามาพาดข้างที่เรานั่ง ข้างแบบแนบติดอะ เป็นต้น
วิธีแก้ จากปสก. เรากำลังเดินขึ้นรถเมล์ แต่มีชาวต่างชาติดันหลังเรา ประมาณว่า เร็วๆ หน่อยสิ แต่คนมันเยอะจะให้เร็วก็ไม่ได้หรอก ครั้งแรกแค่หันไปมองหน้าพอ และนางก็ยังทำสันดานนั้นอีก เราก็เลยกระทุ้งศอกกลับไปอย่างแรงด้วยความโมโห และนางก็หายไปเลย สะใจ จำหน้ามันไม่ได้ด้วย (ใครดีกับเราเราก็ดีด้วย ถ้าใครร้ายมาต้องร้ายกลับ จะได้สมน้ำสมเนื้อกัน)
อิสามีไม่เข้าใจ ก็จัดการสั่งสอนเลยค่ะ ^0^
สามีไม่เข้าใจ ทุกครอบครัว มันต้องมีสักครั้งน่ะที่สามีไม่เข้าใจตัวเรา ซึ่งเราพยายามจะอธิบายให้เค้าฟังแล้ว แต่มันก็ไม่เท่ากับพูดภาษาไทยกับไทยด้วยกัน มันจะเข้าใจกันมากกว่า บางครั้งการพูดคุยกันไม่เคลียก็ทำให้เข้าใจผิดกันได้ ความไม่เข้าใจกัน จากเรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่ บางคู่ถึงกับเลิกกันเลยก็มี แบบประมาณว่า
ผู้หญิง: "ชั๊นจะกลับไทย เก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า พร้อมกับจะเดินออกจากบ้าน"
ผู้ชาย: "อือ จะไปก็ไปสิ"
ส่วนใหญ่ไม่ง้อนะคะ คนต่างชาตินี่ เพราะคุณบอกเองว่าจะไป เค้าก็ปล่อยให้คุณไป บางครั้งอย่าเอานิสัยขี้งอลแบบไทยๆ มาใช้ คนต่างชาติเค้าไม่เข้าใจด้วยหรอก ว่าคุณประชด และอยากให้เค้าง้อ จะทำอะไรต้องคิดก่อนทำ ก่อนที่ผลเสียมันจะกลับมาทำร้ายตัวคุณเอง แต่ถ้าคุณอยากกลับไทยจริงๆ ก็ตามสบายค่ะ
วิธีแก้ การจับเข่าคุยกันเป็นวิธีที่ดีที่สุด ไม่พอใจอะไรก็พูดกันไปตรงๆ นี่คือนิสัยส่วนใหญ่ของคนต่างชาติ และจะทำอะไรก็ต้องมีสติ ให้อภัยซึ่งกันและกัน อะไรยอมได้ก็ยอม ท่องไว้ ช่างมันเถอะ ปล่อยวางเยอะๆ และอย่าลืม พูดอะไรปากกับใจต้องตรงกันด้วย
หลายคนทำงานหนักงกๆ ใช้จ่ายประหยัดในแต่ละเดือน และกลับไทยไปเป็นคุณนายทุกปี ซึ่งอันนี้เป็นเรื่องจริง หลายคนทำแบบนี้กันทั้งนั้น และทุกคนก็แพลนกันว่า ถ้าแก่เกษียณเมื่อไหร่ ก็จะกลับไปใช้ชีวิตที่ไทย และรับเงินเกษียณจากนอร์เวย์ โห...ไม่อยากจะจินตนาการเลยว่าจะสุขสบายขนาดไหน :D (ทุกอาชีพที่นอร์เวย์เมื่อเกษียณแล้วได้เงินทุกเดือน เพราะเค้าเสียภาษีกันเยอะ และจ่ายมานมนาน)
มีโอกาสได้ไปเที่ยวประเทศอื่น เมื่อได้มาอยู่ต่างประเทศแล้ว ยิ่งอยู่นอร์เวย์นี่ มีงานทำ เก็บเงิน ไปเที่ยวประเทศไหนก็ให้ความรู้สึกราคาถูกไปหมด และหลายคนที่อยู่นอร์เวย์ นิยมเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ ไปหาความอบอุ่น เช่น สเปน ไทย ฯลฯ
ประสบการณ์ แปลกๆ ใหม่ๆ ให้เราได้เรียนรู้มากมายเมื่อมาอยู่ตปท. แต่ละอย่างแตกต่างจากไทยราวฟ้าดิน เช่น ซุปเปอร์มาเก็ต ไม่มีคนเอาของใส่ถุงให้เวลาจ่ายเงิน ต้องใส่เอง , ขยะ ต้องแยกขยะก่อนจะทิ้ง , เวลาข้ามถนน รถหยุดให้ , ลูกค้าคือสำคัญยิ่งชีพ เป็นต้น
"อยู่ต่างประเทศกับอยู่ประเทศไทย อยู่ที่ไหนดีกว่ากัน" จากที่เขียนและอ่านวนไปวนมา ก็เริ่มลังเลว่าที่ไหนมันดีกว่ากันแน่ :D แล้วแต่คนชอบดีกว่า (ส่วนตัวเราชอบอยู่ตปท.มากกว่า ชอบอากาศหนาว ชอบชีวิตความเป็นอยู่ แต่บางครั้งก็อยากกลับไทย ไปกินของอร่อยๆ และช้อปปิ้งของถูกๆ ) อยู่ตปท. ก็ดี สภาพชีวิตจิตใจแจ่มใส่ดี อากาศดี ไม่ต้องเครียดเรื่องการเมืองไทย ปล้นจี้ ฆ่า ข่มขืน มีบ่อยเป็นว่าเล่นจนถือว่าเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวัน
ถ้าอยู่ตปท.แล้วมีงานทำก็ดีเข้าไปอีก แต่ก็ยากนะงานหาไม่ได้ง่ายๆ และใช่ว่าทุกคนที่อยู่ตปท.จะมีงานทำ คนตกงานมีเยอะ คนประเทศเค้าแท้ๆ ยังตกงานกันเลย แล้วอยากบอกว่า ถ้าคุณมีงานทำ คุณต้องจ่ายภาษีแพงมาก(นอร์เวย์) ประมาณ 30 กว่า% ของเงินเดือน มหาโหดแทบจะกระอักเลือดเลย คุณทำงานเหนื่อยแทบตาย ต้องจ่ายภาษีให้ประเทศ หลายคนเลือกที่จะอยู่บ้านเฉยๆ เป็นชาวเกาะก็มี แต่เข้าใจหลายคนอยากมาอยู่ตปท. ฝันจะมาขุดทอง แต่ถ้ามาแล้วได้ดีก็ดีล่ะดีใจด้วย แต่ถ้าแย่กว่าเดิมก็ตัวใครตัวมันล่ะค๊าาาา
บทความนี้เขียนขึ้นเพื่อช่วยในการตัดสินใจสำหรับคนที่กำลังสับสนว่าจะอยู่เมืองไทยหรือย้ายไปอยู่ต่างประเทศดี บางคนต้องย้ายมาเพราะตามสามี แต่ก็สับสนอยู่เพราะตัวเองมีงานทำอยู่เมืองไทยรายได้ดี มีตำแหน่งดี ก็ไม่รู้จะทำยังไง บทความนี้อาจช่วยในการตัดสินใจได้บ้าง หรือไม่อาจจะช่วยให้ลำบากใจขึ้น ^_^ (โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจแล้วกันค่ะ)
บทความแนะนำ โดย All about Norway
คลิกที่ลิ๊งด้านล่างได้เลยจ้า
การเรียนภาษา
การหางาน และ นาฟ
วีซ่า
ความรู้ทั่วไป
รีวิว ที่เที่ยวใน Oslo