søndag 9. juni 2013

เรื่องจริงน่ารู้ของประเทศนอร์เวย์

เรื่องน่ารู้ ของประเทศนอร์เวย์
Update ตลอดๆ 


          อ่านประวัติศาสตร์นอร์เวย์ ได้จากหลังข้อ  225 จ้า ......รับรองว่าประวัติศาสตร์นี้อ่านไม่น่าเบื่อแน่ๆ เขียนให้อ่านง่ายและมีภาพสื่อให้เข้าใจง่ายมากที่สุด :D

วัง

1- ภาษานอร์ชเป็นภาษาหลักของประเทศนอร์เวย์ และมีการกระดกลิ้น ในตัวอักษร R ขนาดภาษาไทยยังขี้เกียจกระดกเลย  

2- บางพื้นที่จะกระดกลิ้นเสียงคล้ายๆ คนขาก.......ตุ๋ย 

3- แต่ละพื้นที่ของนอร์เวย์จะพูดสำเนียงแตกต่างกันออกไป ฟังยากมาก แต่หลักๆ คน Oslo จะพูด Bokmål

4- ประเทศนอร์เวย์มี 19 มณฑล , มี 431 เทศบาล

5- ประชากรในประเทศนอร์เวย์มีประมาณ 5 ล้านคน โดยเรียงจากมากไปน้อยตามลำดับ Top6 (ข้อมูลจากหนังสือ På vei 2012)

- Oslo มีคนอาศัยอยู่เกิน 600,000 คน

- Bergen มีคนอาศัยอยู่ประมาณ 257,000 คน

- Trondheim  มีคนอาศัยอยู่ประมาณ 171,000 คน

- Stavanger มีคนอาศัยอยู่เกิน 125,000 คน

Kristiansand มีคนอาศัยอยู่เกิน 80,000 คน

- Drammen  มีคนอาศัยอยู่ประมาณ 60,000 คน


6- คนนอร์นชส่วนใหญ่พูดภาษาอังกฤษได้ เราจึงไม่ต้องกลัวเรื่องภาษาว่าจะไม่มีใครเข้าใจเรา แต่อาจจะคนแก่ๆ สูงอายุไม่ค่อยได้เท่าไรนัก

7- ทักทายกันด้วยคำว่า (Hei ไห) ถึงจะไม่รู้จักกันก็ตาม สามารถพูดทักทายได้ทั่ว แม้แต่เพื่อนบ้านที่ไม่รู้จัก คนขับรถ ฯลฯ

8- การทักทายเริ่มรู้จักกันโดยการจับมือ หลายคนอาจไม่ชอบ แนะนำให้พกเจลล้างมือด้วย 

9- ถ้าสนิทกันมากแล้ว ก็กอดกัน แก้มชนกัน ตามสะดวก

10- พนักงานทุกช้อปต้อนรับด้วยร้อยยิ้ม และทักทาย เป็นกันเองดีมาก และพูดทักทาย

11- บางคนว่าคนนอร์เวย์ เย็นชาเหมือนกับสภาพอากาศ ไม่จริงเสมอไปนะ ลองรู้จักนานๆ สิ แล้วจะรู้ว่าคนนอร์ชตลกโปกฮาติงต๊องมาก ....ส่วนมากจะรักครอบครัวและจิตใจดี

12- ผู้ชายนอร์เวย์ส่วนใหญ่ ถูกสั่งสอนให้ช่วยผู้หญิงทำงานบ้าน 

13- คนที่นี่ชอบเดินเพื่ออบอุ่นร่างกายและสูดอากาศที่สดชื่น โดยเฉพาะเสาร์ อาทิตย์ที่มีแดด 

14- ในฤดูหนาวในเมืองหรือที่ไหนๆ จะเงียบมาก ไม่ค่อยมีคนออกมาเดินเล่นเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะอยู่บ้านกัน 

15- ในช่วงสปริง เข้าซัมเมอร์ผู้คนจะเริ่มออกจากบ้านเดินในเมืองกันอย่างครึกครื้นผิดกับช่วงหน้าหนาว และใส่เสื้อผ้าที่มีสีสัน ทำกิจกรรมนอกบ้านมากขึ้น เช่น บาร์บีคิว


16- สปริง-ซัมเมอร์ คนที่นี่ชอบนั่งเล่นตามที่ที่มีหญ้าเช่น สวนหินรูปปั้น จะปูผ้าผืน นุ่งบิกินี นอนอาบแดด หรือทำกิจกรรมกับเพื่อนๆ และบาร์บีคิว 

17- ค่าครองชีพที่นี่ขึ้นชื่อว่าแพงมากๆ จ่ายภาษีในราคาที่สูงลิ่ว แต่สวัสดิการเค้าดีมากและไม่จำเป็นต้องทำงานราชการ เมื่อเกษียนก็ยังมีบำนาญทุกอาชีพ

18- ไม่มีวัฒนธรรมลูกต้องดูแลพ่อและแม่ตอนแก่เหมือนไทย บางครอบครัวไม่นิยมมีลูกเลย

19- การมีลูกค่าใช้จ่ายสูงมาก แต่ทางรัฐก็ช่วงเหมือนกัน ช่วงก่อนลูกอายุ 1 ขวบ พ่อและแม่สามารถลาหยุดงาน

20- เมื่อหยุดแล้ว ก็ได้เงินเดือนตามปกติ รัฐบาลเค้าให้ความสำคัญกับเด็กมากที่สุด อาจจะเป็นสาเหตุให้คนมีลูกมาก สังเกตได้ตามพาร์ค จะเห็นแม่ๆ แก๊งเพื่อนเดินเข็นรถลูก


21- จะเห็นได้ทั่วไปที่พ่อจะเข็นรถเข็นพาลูกไปเที่ยวหรือทำกิจกรรมต่างๆ ไม่จำเป็นต้องเป็นหน้าที่ของแม่เท่านั้น แม่อยู่บ้านพักผ่อนสบายๆ ได้

22- รถราง รถบัส รถไฟ มาตรงเวลา หากไม่มีอะไรขัดข้องจริงๆ และสามารถเช็คการเดินรถได้จากเว็บไซค์หรือแอ๊ปฯ เวลาเดินทาง หรือจะเดินทางไปโน่นนี่ได้อย่างไร ทำได้ง่ายมาก

23- รถจะหยุดให้คนข้ามถนนส่วนใหญ่เสมอ คนไทยอย่างเราไม่ชิน ต้องรีบวิ่งตลอดกลัวรถจะชน

24- ที่จอดรถใน Oslo หายาก และราคาแพง จอดแล้วต้องรีบจ่ายเงินทันที จ่ายแล้วเอาใบเสร็จ มาเหน็บไว้ที่หน้ารถ จะมีเจ้าหน้าที่เดินตรวจ หากตรวจแล้วพบว่าไม่ได้จ่ายเงิน จะเดินปรับในราคามหาโหด!!


25- รถไฟ รถราง รถบัส จะมีเจ้าหน้าที่สุ่มตรวจตั๋ว ถ้าไม่มีโดนปรับหนักหนาสาหัส ถ้าไม่จ่ายมีเคลียกับตำรวจ

26- นักท่องเที่ยวบางคน อาจคิดว่าขึ้นฟรี เพราะหน้าสถานีไม่มีซื้อตั๋วคึกคัก ส่วนใหญ่จะซื้อตั๋ว เป็นสัปดาห์ เป็นเดือน ใช้ไปยาวๆ เดินเข้าได้เลย


27- กระป๋อง ใช้เป็นส่วนลดในซุปเปอร์มาเก็ตได้ มีตู้หย่อนกระป๋องด้วย บางคนไม่มีงาน ทำก็เก็บกระป๋องเก็บขวด ตามถังขยะมาหย่อนเพื่อได้ส่วนลดในการซื้อของ


28- ปลาแซลแมนมีชื่อเสียง หากินได้ง่าย และส่งออกหลักๆ 

29- เงินสดถือเป็นเรื่องไกลตัวนิดๆ คนที่่นี่นิยมใช้บัตรในการจับจ่ายซื้อของมากกว่า

30- ใช้เงินสกุลโครน Krone นะ ไม่ได้ใช้เงินยูโร หลายคนมักเข้าใจผิด

31- แผ่นป้ายโฆษณาใหญ่ๆ ไม่มีเกะกะ เหมือนเมืองไทย แลดูสะอาดตาดีกว่า มีบ้างเป็นหย่อมๆ พวกใบประกาศตามเสา

32- จะมีพวกมือบอนส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติเอาสเปรสีมีฉีดพ่นข้อความไม่สุภาพ สร้างความสกปรกเช่น บางสถานีรถไฟใต้ดิน


33- สุราไทยก็เป็นที่นิยมเหมือนกัน (สิงห์)

34- เรดบูล หรือกระทิงแดง ขายเป็นกระป๋องผสมโซดาด้วยและไม่แรงเหมือนของพี่ไทยเรา

35- มีคนไทยอาศัยอยู่มาก โดยเฉพาะสาวๆ มีสามีเป็นชาวนอร์เวย์ จะได้ยินเสียงภาษาไทยตลอดเวลาในทุกๆ ที่

36- หนุ่มนอร์เวย์ชอบสาวไทย เพราะอ่อนหวาน ทำกับข้าวอร่อย ดูแล เอาใจใส่ สามีดี ผิดกับสาวบ้านเมืองเค้า อาจจะดูแข็งๆ และตัวใหญ่ ไม่น่าถนอมเหมือนสาวไทย แต่สาวไทยก็แพ้สาวปินเรื่องภาษาอังกฤษ ข้อมูลจริงจากปากชาวนอร์เวย์

37- หลายเชื้อชาติที่อาศัยอยู่ที่นี่ ไทย เวียดนาม ฟิลิปปิน ปากีฯ อัฟกาฯ อาหรับ อิหร่าน โรมาเนีย ฯลฯ เป็นประเทศที่เปิดมากๆ เหตุผลของคนที่อยู่ที่นี่มี เช่น ปัญหาทางการเมือง+สงคราม จากประเทศตัวเอง, ย้ายมาทำงาน ย้ายตามครอบครัว เป็นต้น

38- คนเอเชียเยอะ เดินๆ อยู่ ปะกับคนเอเชียเหมือนกันจะโดนแสกนจ้องตาขะเหมงตลอด เพื่อ!! แต่เราไม่เคยแสกนใครก่อนเลยยืนยัน ไม่ค่อยชอบนะ ><

39- สุนัขทุกตัวมีเจ้าของ เป็นเรื่องปกติที่เจ้าของพาสุนัขไปทุกหนทุกแห่ง

40- เมื่อสุนัขถ่าย เจ้าของมีหน้าที่ที่ต้องเก็บทุกครั้ง เพื่อรับผิดชอบ

41- สุนัขที่นี่ไม่นิยมใส่เสื้อผ้า ถึงแม้อากาศจะหนาวเย็นสั่นสักเพียงใด

42- คนทีนี่รักสุนัข รักสัตว์มาก และสัตว์เลี้ยงพวกเค้าส่วนใหญ่จะใจดี

43- เวลาเปลี่ยน 2 ครั้งใน 1 ปี ฤดูหนาว 6 ชม. ออกหน้าหนาว 5 ชม. ห่างจากไทย

44- อากาศเย็น ให้ความรู้สึกสะอาดสดชื่น ช่วงซัมเมอร์ของที่นี่ก็ยังหนาวสำหรับประเทศไทย

45- เสื้อผ้าใส่หลายๆ ครั้ง ได้ในฤดูหนาว ไม่จำเป็นต้องซักทุกวัน เพราะไม่ได้สกปรกแต่อย่างไร

46- ใน 1 วัน มีทั้ง แดด,หิมะ,ฟ้าครึ๊ม,ฝนตก,ลม หนาวหลักๆ ควรเช็คอากาศก่อนออกบ้านทุกครั้ง

47- การดื่มเบียร์ดื่มไวน์ของคนที่นี่ ถือเป็นเรื่องปกติมากๆ ถือว่าเป็นปัจจัยหลักสำคัญเลย

48- สถานประกอบการส่วนใหญ่จะหยุดกันในวันอาทิตย์ แต่ช้อปเล็กๆ จะยังเปิดให้บริการ

49- เวลา 3 ทุ่ม ฤดูวินเทอร์ เมืองก็เงียบกริบ วังเวงมาก นอกจากกลุ่มดื่มเที่ยว ตอนกลางคืน

50- ห้องน้ำไม่มีที่ฉีดน้ำ ใช้แต่กระดาษชำระเท่านั้น แล้วเวลาถ่ายหนักล่ะ >< (อย่าลืมพกขวดใส่น้ำไว้ล้างนะจ๊ะ)


51- กระดาษชำระ สามารถทิ้งในชักโครกได้ ไม่ตันเหมือนเมืองไทย
52- รถไม่ติดอย่างพี่ไทย ปกติจะติดช่วยเย็นคนเลิกงาน หรือถนนที่วิ่งออกไปต่างจังหวัดอย่างวันศุกร์ช่วงเย็น

53- ไม่มีรถมาประกาศขายของในหมู่บ้านและเด็กแว๊น เหมือนบ้านเราสร้างความรำคาญ มีแต่รถขายไอติมเท่านั้นที่เห็น

54- พวกเด็กแก่นซนที่นี่ก็มี เด็กพิเรนบ้าง สร้างความป่วน เช่น กดกริ่งให้รถบัสจอดทุกป้าย เพ๊นผนัง เป็นต้น เด็กอะนะ ชอบเรียกร้องความสนใจ

55- มีรถยนต์คันเล็กไฟฟ้าน่ารักดี ข้อดีมีขนาดเล็ก ถูก หาที่จอดง่าย 


56- ที่อยู่อาศัยราคาแพงมาก ใน Oslo ยากมากที่จะหาห้องเช่า หรือห้องซื้อ

57- รัฐบาลไม่ทำลายธรรมชาติเพื่อเพิ่มอพาทเม๊นมากเกินไป ทำให้อพาทเม๊นมีราคาสูงลิ่ว

58- การซื้ออพาทเม๊นจะมีวันนัดดูห้อง และทุกคนต้องประมูลราคา คนประมูลสูงสุดจะได้ห้องนั้นไป

59- การแสดงความรัก ไม่ใช้เรื่องที่ผิด เช่น กอด จูบ ในที่สาธารณะ ปกติมากๆ


60- ร้านเซ็กทอย เป็นเรื่องปกติเช่นกัน ใครจะดู จะซื้อก็ได้ และรับประกันสินค้า หากสินค้าไม่สามารถทำให้คุณเสร็จได้ ยินดีคืนเงินด้วยค่ะ

61- ทุกสิ้นปี หลังคริสมาสต์เป็นต้นไปถึงกุมภาพันธ์ สินค้าของดีๆ ลดราคากันกระหน่ำ 50-70% เลยทีเดียว หรือมากกว่านั้นด้วย

62- หลายครอบครัวจะขับรถไปช๊อปปิ้งที่สวีเดน เพราะราคาสินค้าที่นั่่นถูกกว่านอร์เวย์


63- มีธรรมชาติฟยอร์ดที่อุดมสมบูรณ์ดอกไม้มีต้นเล็กงอกตามพื้นดิน มีหลายสี

64- ต้นไม้ออกใบ ดอกไม้ออกดอก ตามถนน ริมทาง สวยมากๆ เริ่มในช่วงสปริง ทุกอย่างเขียวขจี ต่างจากฤดูหนาว แลดูแห้งๆ เปลือยๆ

65- มีพระอาทิตย์เที่ยงคืน ไม่ว่าจะดึกแค่ไหน ฟ้าก็ยังสว่างส่องแสงอยู่ หาดูได้ในตอนเหนือของนอร์เวย์ ส่วนที่ Oslo เที่ยงคืนก็ยังมืดไม่สนิท สว่างก็ไว 

66- ทางตอนเหนือมีแสงหลายสีสวยมากเกิดขึ้น ที่นอร์ท เรียกว่า (light north) (จะไปดูกับตาตัวเองสักวัน)


67- มีพิพิธภัณฑ์มากมาย ภาพศิลป ที่มีชื่อเสียง เห็นแล้วต้องร้องอ๋อ....ภาพสครีม68- เหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดของนอร์เวย์ คือระเบิดใน Oslo และยิงเด็กนักเรียนเสียชีวิตจำนวนมาก 

69- นอร์เวย์ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่สงบและปลอดภัยมากที่สุด ก่อนเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น

70- หางานยาก ภาษานอร์ชจำเป็นและสำคัญที่สุด คนนอร์ชหลายคนยังไม่มีงาน

71- เงินเดือนการทำงานของคนที่นี่ไม่ขี้เหร่ ครู ออฟฟิต เสิร์ฟ ทำความสะอาด งานห้าง ฯลฯ เงินเดือนไม่ค่อยต่างนัก

72- พนักงานทำความสะอาดบางคน รายได้ดีกว่าพนักงานออฟฟิตอีก

73- คนสวีเดนเข้ามาทำงานในนอร์เวย์เป็นจำนวนมาก ด้วยเงินเดือนที่สูงกว่าสวีเดน 

74- คู่รักไม่นิยมแต่งงานกัน แต่ก็อยู่กันไปแบบพาร์ทเนอร์ หรือมีลูกแล้ว ก็ยังเรียกว่า girl friend เพราะมีเปอร์เซ็นต์การหย่าร้างสูง ไหนจะต้องจัดแจงเรื่องสมบัติอีกถ้าแต่งกัน

75- หลังหิมะตก ตามด้วยอากาศติดลบ ถนนจะกลายเป็นน้ำแข็ง เป็นเรื่องปกติที่เดินลื่นล้ม ก้นจ้ำเบ้า

76- ในช่วงมีหิมะ ระวังหัวให้ดี มีคนเสียชีวิตเพราะหิมะเป็นน้ำแข็งตกมาใส่หัวสลบไปหลายราย เกิดขึ้นบ่อยๆ


77- มีขอทานค่อนข้างมาก นั่งตามทาง บ้างเล่นดนตรี บ้างนั่งเฉยๆ บ้างแต่งตัวแปลกๆ ทำให้คนสนใจและให้เงิน ส่วนใหญ่เป็นต่างชาติ ฯลฯ รายได้ดีทีเดียว ฉะนั้นอย่าให้ตังเด็ดขาด



78- ถุงในซุปเปอร์มาเก็ตมีค่า 1 โครน คูณ 5 เท่ากับเงินบาท  ถ้าไม่อยากจ่ายก็หาถุง หากระเป๋าไปใส่เองเวลาช๊อปปิ้ง

79- กล้วยวางขายเป็นหวี แต่เด็ดซื้อเป็นลูก คิดเงินตามน้ำหนัก


80- อาหารเอเชียมีให้เลือกซื้อง่าย และเยอะด้วย จะประหยัดมากถ้าทำกินเองที่บ้าน

81- กินอาหารนอกบ้าน ค่าใช้จ่ายสูง ไม่ค่อยนิยมเท่าไหร่ แต่นานๆ กินทีก็โอเค

82- มาม่าซองละ 15 บาท ,ปลาเส้นทาโร่ซองละ 50 บาท, ชาเขียวขวดละ 100 บาท

83- อาหารหลักของคนที่นี่คือ ขนมปัง และเน้นอาหารเย็นด้วย อาหารจัดหนัก!!

84- หุงข้าวกิน โดยเอาถุงข้าวเล็กๆ ลงไปต้ม มันเป็นวิธีการทำหลังกล่องจริงๆ

85- อาหารนอกบ้านตกมื้อละ 1000 บาท ขั้นต่ำ

86- เลนถนน พวงมาลัยรถ ตรงกันข้ามกับไทย เวลาเดินข้ามถนน งงมาก มองมันทั้งสองทางเลย

87- คริสมาสต์ที่นี่คือวันที่ 24 ธันวาคม ของทุกปี

88- ถ้าวันไหนฝนตกหนักๆ ย้ำว่าหนักจริงๆ ในออสโลจะจมน้ำเป็นหย่อมๆ เพราะประเทศเค้าอยู่บนภูเขา และรถไฟใต้ดิน ไม่ได้ถูกให้อยู่ใต้ดินตลอดเวลาเหมือนไทย จึงไม่มีปัญหากับการเดินรถ (แต่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ แบบภาพ)

89- การรักษาผู้ป่วย ของที่นี่จะเป็นไปอย่างช้า ถ้าอยากจะเอ็กเซรย์ต้องนัดคิว เป็นเดือนๆ เช่น ปวดท้องไม่ทราบสาเหตุ ก็รอไปปวดหนักขนาดไหนก็ต้องทน แถมยาที่นี่ไม่แรงด้วย เหมือนกินขนมเล่น 

90- เจ็บป่วยอะไร ต้องนัดหมอ หมอไม่ได้อยู่ รพ.แต่จะเป็นห้องเป็นสถานที่ง่ายๆ ตรวจเบื้องต้น ถ้าหนักก็ค่อยให้ใบไป รพ. หรือหนักจริงๆ ก็โทร emergency มารับถึงที่เลย

91- H&M เป็นยี่ห้อที่หาง่ายมากๆ ในนอร์เวย์และเป็นสินค้ายี่ห้อราคาถูกที่สุดในนอร์เวย์ แต่คุณภาพก็....แถมตั้งราคาสูงอีก ยิ่งตอนเทศกาลลดราคา แบรนด์อื่นกินเรียบเพราะคุณภาพเค้าดีกว่าเยอะ แถมราคาก็ห่างกันไม่มากนักตอนลดนะ (แต่ทำไมบ้านเราฮิตกันจัง พูดเรื่องจริงสาบานได้)


92- ยี่ห้อโทรศัพท์มือถือยอดฮิตของที่นี่คือ Iphone , Samsung , Sony, HTC ....ตามลำดับ

93- หลายคนเหมือนกันที่ยังใช้โทรศัทพ์แบบกดปุ่มอยู่เลย

94- 90% ของคนที่นี่ใช้เสียงเรียกเข้าพื้นฐานของโทรศัพท์ จะว่าไปแล้วไม่เคยได้ยินเสียงเรียกเข้าแบบเพลง mp3 ตามรถสาธารณหรือที่สาธารณเลยล่ะ 

95- แก๊งขโมยของมีเยอะมากใน Oslo ที่หายกันแบบยอดฮิต คือโทรศัพท์มือถือ แบบไม่รู้ตัว และแบบรู้ตัว ต้องระวังไว้ดีๆ พวกต่างชาติอะตัวดีเลย ทางที่ดีอย่าเข้าใกล้ และอย่าไว้ใจคนแปลกหน้า

96- แก๊งลวงโลกจะมาทำนองถามเวลา และบางคนก็ควักโทรศัพท์ขึ้นมาดูว่ากี่โมงเพื่อบอกเค้า แต่ยังไม่ทันจะอ้าปากบอกเวลา ก็โดนฉกมือถือวิ่งหนีหายแล้ว (ปสก.จากคนรู้จักและยังอีกหลายกรณี)

97- ดื่มน้ำจากก๊อกได้หรือน้ำประปานั่นเอง มีความสะอาดและสดชื่นมากๆ แต่ก่อนดื่มต้องเปิดก๊อกน้ำในโหมดเย็นจัด นับ 1-5 ค่อยรองใส่แก้วมาดื่มนะ ห้ามดื่มน้ำร้อนจากก๊อกเป็นอันขาด มันเป็นสีขาวขุ่น


98- คาดเข็มขัดนิรภัยถือเป็นสิ่งสำคัญและทุกคนที่นี่ต้องพึงกระทำ รถบัสก็เช่นเดียวกันต้องคาดด้วย (รถบัสไปตจว.)

99- ฤดูใบไม้ร่วงที่นี่สวยและโรแมนติกเอามากๆ เลย แต่จะสวยแบบนี้แค่ช่วยระยะสั้นๆ ประมาณ 1 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับลมฝนด้วย

100- การจะเป็นเพื่อนกับคนนอร์เวย์น่ะยาก แต่ถ้าได้เป็นเพื่อนกันแล้วก็จะรักกันไปจนวันตาย และเค้าจะไม่เรียกคนรู้จักว่าเพื่อน คนรู้จักก็คือคนรู้จัก เพื่อนก็คือเพื่อน แต่ถ้าเป็นคนไทยเพิ่งรู้จักกันก็เรียกว่าเพื่อนกันแล้ว

101- ผู้หญิง ผู้ชาย มีความเท่าเทียมกัน และไม่แบ่งว่าผู้หญิงดื่ม ผู้หญิงแต่งตัวเซ็กซี่ ผู้หญิงไปนอนบ้านผู้ชาย เป็นผู้หญิงไม่ดี เลว บลาๆ...ที่นี่เค้าเท่าเทียมกันหมดอยากทำอะไรก็ทำ

102- เด็กผู้หญิงที่นี่ขนตาเด้งตั้งแต่ 10 ขวบ (แก่เกินตัว)

103- ห้างที่นี่ไม่ใหญ่เหมือนพี่ไทยเรา เล็กตี๊ดเดียวเองล่ะ คิดถึงยูเนี่ยนมอล์ มาบุญครอง เทอมินอล21 บ้านเราจริงๆ


104- กินอาหารบนรถไฟใต้ดินได้ เพราะไม่มีป้ายห้าม แต่ก็มีมารยาทหน่อยแล้วกัน

105- รถไฟฟ้าที่นี่ก็มีปัญหาบ้างบางครั้งเหมือนกัน เช่น ดีเลย์ ทราฟฟิค ต้องแบ่งกันเข้าสถานีในยามเร่งด่วน (อย่าน้อยใจหรือบ่นว่ารถไฟฟ้าเมืองไทยเลย ของแบบนี้ต้องเข้าใจ ว่ามันก็ขัดข้องกันได้)

106- บ้านช่องที่นี่เค้าไม่ชอบใช้หลอดไฟสว่างๆ มีแต่ไฟสลัวๆ เหลืองๆ ดูแล้วขัดตามาก เพราะจะมองหาอะไรไม่ค่อยจะเจอ เค้านิยมจุดเทียนกันมากกว่า เพิ่มความโรแมนติก แถมแสงเทียนยังช่วยให้อุ่นขึ้นด้วย

107- วันหยุดพักร้อนของคนที่นี่นานมาก 5 สัปดาห์ต่อปีแน่ะ 

108- นอร์เวย์เคร่งในเรื่องการแยกขยะมากๆ

109- คนนอร์ชหลายคนรู้จักประเทศไทยจาก "ไข่ต้มที่มีลูกเจี๊ยบอยู่ข้างใน" 

110- กีฬายอดนิยมคือ สกี และไปแข่งที่ไหนก็จะชนะตลอดๆ อาจจะไม่ทุกครั้ง แต่ก็บ่อยๆ



111- เริ่มต้นปี 2014 รัฐบาลใหม่ก็ได้สนองนโยบายที่ได้กล่าวว่า จะจำกัดประชาการคนต่างชาติเข้ามาอาศัยในนอร์เวย์ สิ่งที่เห็นอย่างแรกตอนนี้คือ ปรับราคาค่าวีซ่าแพงหูฉีก!

112- ช่วงวินเทอร์ จะออกจากบ้านที อย่าลืมพกกระดาษทิชชู่เอาไว้เช็ดน้ำมูกด้วยนะฮัฟ ไม่งั๊นจะไหลเยิ้ม ไม่ก็ต้องซี๊ด ซ๊าด ตลอดเวลา จะหาว่าไม่เตือน 

113- พูดภาษานอร์ชได้นิดหน่อย คนนอร์เวย์ก็จะบอกว่า โหย...เก่งมากเลย เก่งจริงๆ ทั้งๆ ที่พูดได้แค่ ไห , ทั๊ค 

114- ประเทศนี้เป็นประเทศที่เปิดมากๆ โดยเฉพาะ โป๊ออกทีวี สามารถโชว์หน้าอกได้แบบไม่เซ็นเซอร์ พูดคำหยาบออกทีวีก็ได้ รายการเรียลลิตี้ทางทีวี ก็โชว์ว่ามีเซ็กได้ แต่จะเซ็นเซอร์นิดนึงตรงจุดสำคัญ แต่ที่เหลือเราเห็นหมด

115- ผู้หญิงโนบา(โนชั้นใน)เป็นเรื่องปกติ ยกตัวอย่าง ครูที่มาสอนภาษา นางโนบาทุกวันเห็นจนชิน และบางคนก็ไม่ใส่กางเกงใน เสื้อเดรส แซ็กตัวนึงก็เดินออกจากบ้านเลย 


116- วันไนท์สแตนเป็นเรื่องปกติของชาวนอร์เวย์ หรือจะเพื่อนกันมันส์ดี ก็เป็นเรื่องปกติเช่นกัน (ขึ้นอยู่กับการตกลงกัน)


117- และเปิดโอกาสให้คนต่างชาติดีมากพวกลี้ภัย เท่าที่รู้บางคนได้เงินกินฟรีๆ เดือนละหมื่นกว่าโครน ประมาณว่า เค้าจ้างให้ไปเรียนและได้เงินฟรี แต่ระยะเวลามีจำกัด อาจจะ 2 ปี แล้วแต่การตกลงของแต่ละเคส

118- บ้านไหนมีทีวี ต้องจ่ายตังทุกปี ปีละ 2 ครั้ง ครั้งนึงพันกว่าโครน เพราะช่อง NRK บังคับจ่าย ตอนแรกใช้ทีวีเก่าไม่โดนเก็บค่ะ ดันไปซื้อทีวีมาใหม่ ทางร้านก็ส่งข้อมูลไปทางNRK ว่าบ้านนี้ซื้อทีวีใหม่ ดังนั้น NRK จึงรู้ว่าเรามีเราต้องจ่ายค่าดูช่องเค้า เป็นช่องบังคับทุกทีวีต้องมี

119- วันเกิดอายุครบ 30, 40, 50, 60, 70, 80, 90, 100 .....ถือว่าพิเศษสุดๆ ต้องจัดให้ยิ่งใหญ่

120- จะถ่ายรูปใครต้องขออนุญาต 

121- จะโพสรูปใครลงอินเตอร์เน็ตก็ต้องขออนุญาต จะรู้จักสนิทแค่ไหนก็ตาม ยิ่งรูปเด็ก เอาไปโพสนี่อาจเป็นเรื่องโกรธเคืองกันได้เลยล่ะ

122- คนนอร์ชชอบกินขนมปังได้ตลอดเวลา เหมือนกับตลอดเวลาที่เรากินข้าว

123- ครอบครัวที่มีออแพร์ บางครอบครัวจะกดขี่ข่มเหงออแพร์ เช่น ใช้งานเกินเวลา ห้ามกินขนม ไอติม ไม่ให้ไปเรียน เป็นต้น แต่ก็ทุกประเทศที่มีแบบนี้ อาจเป็นเรื่องปกติ

124- ออแพร์รายได้ตกเดือนละ 5,500 kr หักภาษีอีกประมาณ 300 kr. กิน อยู่ ฟรี ก็โอเคมั๊ง แต่ถ้าโดนด่า สับโขก ใช้อย่างทาส ก็อาจไม่คุ้ม

125- ในฤดูหนาวเวลามีปาร์ตี้ เค้าจะไม่แช่เครื่องดื่มไว้ในตู้เย็น เพราะมันเย็นไม่ทันใจ วางไว้ข้างนอกเย็นกว่ากันเยอะ


126- เวลาทำอาหารจะทอดเนื้อสัตว์ก่อนทุกครั้ง ไม่ว่าอาหารนั้นจะต้องต้มก็ตาม เช่น ต้มข่าไก่ ต้องนำไก่ไปทอดให้สุกก่อน (บางครอบครัว)


127- ถ้าอยู่ Oslo แล้วอยากเจอคนไทย ให้ไปเดินห้าง Oslo city หรือไม่ก็ร้านเอเชียช้อป 

128- ฝนตกนิดหน่อย ไม่ค่อยจะกางร่มค่ะ หรือถ้าเราจะกางทีก็ต้องมองคนรอบข้างด้วย เดี๋ยวจะเว่อกว่าชาวบ้าน 

129- งานประจำหายากกว่างานพาร์ททาม มากๆๆๆๆ

130- คนที่นี่ส่วนใหญ่ชอบกินซูชิ, อาหารไทย และชอบเที่ยวไทย

131- นิยมตกแต่งบ้านให้น่าอยู่ เพราะอากาศหนาว ก็จะอาศัยอยู่ในบ้านนี่แหละ

132- ถ้าได้รับเชิญให้ไปปาร์ตี้หรือไปรับประทานอาหาร ต้องหิ้วของไปฝากเจ้าบ้านด้วย เช่น ดอกไม้ ไวน์ เป็นต้น ห้ามไปมือเปล่ามันไม่สุภาพเท่าไหร่


133- คนต่างชาติพวกลี้ภัยที่นี่ชอบมีลูกกันเยอะๆ เพราะการมีลูกเยอะ ก็ได้รับเงินช่วยเหลือด้วย

134- อพาทเม๊นห้องนึง บ้างอยู่กันเกือบสิบคน (ตัวอย่าง ปากีฯ แถวบ้านเราเลย) ถ้าเป็นคนนอร์ชจะเป็นพวกแชร์กันอยู่ประมาณ 3-4 คน ในเมือง

135- พวกปากีฯ อิฯ อิฯ ดำๆ อ้วนๆ เป็นพวกไม่ค่อยมีมารยาท เจอมาเยอะมาก 95% เลย ไม่ทำงาน วันๆ เอาแต่ผลิตลูก กินนอน อ้วนตูดบะเร่อ ทำตัวไร้มารยาทตลอดๆ (แปลกันเอาเองเน้อ ไม่อยากเขียนตรงๆ)

136- พอฝนตก พวกไส้เดือนก็ออกมาเดินเล่น เต็มทางเดินไปหมดเยอะมากๆ บ้างก็ถูกเหยียบตาย แต่ที่แน่ๆ แขยงเท้ามากๆ แม้จะใส่รองเท้าก็ตาม

137- ร้านแมคโดนัลที่นี่ ไม่ค่อยจะสะอาด หมายถึง พื้น โต๊ะ เก้าอี้

138- เวลาสั่งอาหาร การจัดเตรียมทำได้ช้ามากๆๆๆ เทียบกับที่ไทยไม่ได้สักนิด

139- อากาศจะหนาวแค่ไหน ก็ยังกินไอติม และน้ำปั่น

140- ในรถไฟ เบาะนั่งสำหรับสองคน แต่บางคนก็นั่งและวางกระเป๋าของตัวเองไว้เพื่อกั๊กที่ไม่ให้คนอื่นนั่ง แต่พอคนเยอะมากขึ้น ถึงจะยอมเอาเป๋าออก ยังมีจิตสำนึกนิดนึง

141- เด็กจะได้รับอนุญาตให้กินขนมหวานในวันหยุดเท่านั้น

142- เด็กจะนอนตรงเวลาทุกวัน และได้รับการพักผ่อนอย่างพอเพียง เพื่อวันรุ่งขึ้นจะไปเรียนได้อย่างไม่ง่วง


143- โรงเรียนอนุบาลที่นี่ ไม่ใช่ภาคบังคับว่าจำเป็นต้องเรียนอย่างไทย 

144- แท๊กซี่ ขึ้นได้เลยโดยไม่ต้องถามคนขับก่อน คนขับไม่มีสิทธิปฏิเสธ หรือบอกว่าน้ำมันจะหมด

145- คนนอร์ชหลายคนมีบ้านพักตากอากาศ บ้างอยู่ในป่า บนภูเขา หรือติดทะเล

146- ช่วงซัมเมอร์เหมาะกับการไปพักผ่อนที่บ้านพักตากอากาศที่สุด ถ้าใครไม่มี ก็สามารถหาเช่าได้

147- ในช่วงฤดูร้อน ผู้คนนิยมออกไปปิ้งย่างกินตามสวน อาทิ ขนมปัง ไส้กรอก แฮมเบอร์เกอร์ เป็นต้น

148- คำพูดยอดฮิตสำหรับผู้หญิงเวลาดื่มสุรา คือ ไย๋ อาร์ บิ้วตี้ฟูล. จะแปลว่าชั้นสวยก็ไม่เชิง เพราะคำหลัง ฟู๊ล แปลว่าเมา ^_^ มันคือคำพูดขำๆ อะ

149- คนนอร์ชหลายคนชอบทำเบียร์ดื่มเองที่บ้าน ไม่ก็ขายให้เพื่อนฝูง

150- ผู้หญิงนอร์ชหลายคนชอบใส่ชุดออกกำลังกายไปช้อปปิ้ง (ในฤดูที่ไม่ใช่หน้าหนาว)

151- ผู้หญิงนอร์ช ส่วนมากชอบใส่รองเท้าผ้าใบ ถึงเสื้อผ้าที่นางใส่จะเป็นเดรส หรือสวยแค่ไหน ก็จะใส่คู่กับรองเท้าผ้าใบตลอดๆ นอกเสียจากปาร์ตี้ตอนกลางคืนก็จะใส่ส้นสูงหน่อย (และเราก็ได้รับอิทธิพลนี้ด้วย อิอิ)

152- คนนอร์ชจะภูมิใจในประเทศชาติของเค้ามากๆ บางคนแสดงออกโดยการสวมเสื้อผ้า หมวก กระเป๋า ต่างๆ ที่มีสัญลักษณ์ธงชาตินอร์เวย์

153- ช่องทีวีที่นี่น่าเบื่อมาก ไม่ค่อยฉายอะไรอัพเดททุกวัน ชอบฉายซ้ำไปซ้ำมา รายการทีวีก็ไม่น่าสนใจ แต่ถ้ามีก็จะมีสาระมากๆ พวกประวัติศาสตร์ชาติต่างๆ หรือสารคดี ยิ่งช่วงซัมเมอร์นะ ไม่ต้องหวังจะดูอะไรใหม่เลย เพราะไม่มี คนนิยมไปพักผ่อน ไม่มีคนดูทีวีล่ะ

www.ha-halden.no

154- Russ รุซ คือกลุ่มวัยรุ่นที่เรียนจบม.ปลาย จะใส่กางเกงสีแดง สีน้ำเงิน สีเขียว สีดำ ขึ้นอยู่กับสายเรียน 

155- Russ จะเริ่มแต่งตัวเดินตามถนนหลังอีสเตอร์ ถึงวันชาตินอร์เวย์ พวกเค้าจะปาร์ตี้กันสุดเหวี่ยง และทำในสิ่งบ้าๆ บอๆ

156- Russ เวลาเดินถนนหรือในเมือง จะมีการทำบัตรการ์ดเหมือนนามบัตร ไว้แจกเด็กๆ บ้างเด็กๆ ก็วิ่งเข้ามาขอ ในบัตรก็มีรูป เขียนอะไรก็ได้แล้วแต่ เด็กๆ ก็จะเก็บไว้เป็นที่ระลึก ไม่ก็เอาไปอวดเพื่อนว่าใครได้เยอะกว่ากัน

157- ผู้หญิงส่วนใหญ่นิยมไว้ผมยาวระดับเท่ากัน ไม่มีซอยแนวๆ จะว่าไป เพราะอากาศหนาวมั๊ง และเข้าร้านซอยผมมันก็ราคาแพง แถมฝีมือก็สู้ไทยไม่ได้อะนะ

158- ทรงผมที่ฮิตสำหรับผู้หญิงที่สุด คือมัดผมหางม้าให้หัวเถิกๆ ถ้าไม่ได้สระผมหลายก็ทรงนี้เริศค่ะ อิอิ


159- วัยรุ่นนักเรียนนิยมใส่รองเท้าคอนเวิร์ด หุ้มข้อบ้าง ธรรมดาบ้าง

160- คืนของได้ หากซื้อสินค้าแล้วไม่พอใจ เช่น ซื้อเสื้อจาก h&m ราคา 100 kr. ก็บอกพนง.ว่าคืน พนง.ก็ยินดีทำเรื่องคืนเงินให้ แบบไม่มีหน้าบูดเบี้ยว แต่ต้องมีใบเสร็จนะ และสภาพสินค้ายังใหม่และมีป้ายครบเหมือนเดิม

161- คนนอร์เวย์นิยมกินของหวานตบท้ายด้วยอาหารมื้อเย็น

162- อาหาร สามารถขอใหม่จากร้านได้ หากไม่พอใจ เช่น แฮมเบอร์เกอร์เย็นยะเยือก ทั้งๆ ที่ควรจะอุ่น

163- ที่อยู่อาศัยโซน west จะแพงกว่าโซน east

164- โซน east จะมีคนต่างชาติอยู่เยอะมากๆๆๆๆๆ 

167- ประเทศนี้ไม่มีจิ้งจก!!

168- คนอ้วนประเทศนี้มีน้อย ถ้าเทียบไปอยู่อเมริกา เพราะคนที่นี้รักสุขภาพ กินแต่อาหารมีประโยชน์ และชอบออกกำลังกาย คนมีกล้ามเดินเจอง่ายๆ ตามท้องถนนทั่วไป

169- เป็นเรื่องปกติถ้าหากเจอคนที่นี่ใช้เท้า ชี้สิ่งของ หรืออาจจะเป็นเรื่องปกติของคนยุโรปก็ได้ล่ะ



169- การดูดบุหรี่ที่นี่ไม่ค่อยนิยมนัก สิ่งที่นิยมกันเค้าเรียกกันว่า ''สนู๊ส'' Snus เหน็บไว้ตรงเหงือก ก็สามารถดูดด่ำนิโคตินได้ 

170- หลายคนชอบใช้สนู๊ส ทำให้เสียบุคลิกมาก เวลายิ้ม...ตอนยัดสนู๊ทไว้ที่เหงือก หรือตอนควักสนู๊ทออกมาทิ้ง แหวะ!!

171- ผลเสียของสนู๊สจะคล้ายๆ กับการดูดบุหรี่ ทำให้เหงือกเสีย ทำให้เป็นมะเร็ง ฯลฯ

172- อายุ 18 ถึงจะซื้อได้ และต้องโชว์ไอดีด้วย ... บรรจุภัณฑ์ก็พกพาสะดวกในรูปแบบกล่องกลมๆ

173- จะซื้อของกินที่ 'ร้านเอเชีย' ที่นี่สิ่งสำคัญต้องดูวันหมดอายุให้ดีๆ เพราะบ่อยครั้งมากที่เจอสินค้าจวนจะหมดอายุ หรือหมดอายุก็ตามตั้งวางขายกันหน้าสล๊อน

174- แต่บางครั้งทางร้านรู้ว่า สินค้าหมดอายุ หรือจวนจะหมดอายุ ก็มาจัดโปรโมรชั่นราคาถูก เช่น กุลิโก๊ะป๊อกกี้หมดอายุไปแล้ว 1 เดือน โปรโมรชั่น 3 กล่อง 10 kr. ใครจะกล้ากินสินค้าหมดอายุ 

175- รร.ประถมที่นี่เรียน 7 ปี ป.1-ป.7

176- คนนอร์เวย์เคารพกฎกติกาการใช้ชีวิตในสังคมเอามากๆ เช่น นั่งรถได้ไม่เกิน 5 คน ก็ต้องไม่เกินจริงๆ ไม่ว่าเพื่อนจะขอติดรถกลับไปด้วยในระยะทางใกล้ๆ ก็ตาม เค้าก็จะปฎิเสธ

177- ไม่ใช่ทุกคนที่ประเทศนอร์เวย์จะเป็นคนนิสัยดีนะ ที่เราเจอจากปสก. พวกวัยรุ่นส่วนใหญ่นิสัยไม่ค่อยดี เช่น ชอบเสียงดัง เรียกร้องความสนใจ แซงคิว เป็นต้น 

178- พวกนี้ พอเริ่มโตขึ้นสักอายุ 30 จะเริ่มคิดได้  และเป็นคนดี เป็นที่รักครอบครัว

179- บางครอบครัวคิดไม่ได้ ใช้ชีวิตหรูหราจนเป็นหนี้ท่วมตัวก็มีเป็นหนี้เป็นล้านๆ โครน ที่นี่เค้ามีรายการทีวีแบบว่า ช่วยคนที่เป็นหนี้ ทำยังไงให้บรรเทาหนี้ ช่วยวางแผนการบริหารเงิน พอได้ดูรายการนั้น ทำให้เรารู้ได้ว่า มีคนประเภทนี้ไม่น้อยเลยที่อยู่ในประเทศนี้

180- แหวนหมั้นใส่นิ้วนางด้านซ้าย แหวนแต่งงานใส่นิ้วนางด้านขวา


181- ผู้หญิงนอร์ช เวลาท้องจะไม่ใส่ชุดคลุมท้องโคร่งๆ เหมือนเมืองไทย เค้าจะใส่แบบเป็นเดรส ไม่ก็เสื้อกล้ามยาวๆ ที่เห็นสัดส่วนชัดเจน ฉะนั้น ท้องโตแค่ไหน ก็เห็นเป็นลูกกลมๆ ชัดเจนอย่างนั้นเลยล่ะ

182- ไวกิ้งสมัยก่อน ไม่ได้ใส่หมวกมีเขา อย่างที่ปัจจุบันหลายคนยังเชื่อกันแบบผิดๆ !!

183- สีม่วง เป็นสีหนึ่งที่ฮิตที่นี่ ไม่ใช่สีแม่ม่าย หรือสีกระเทยตามที่คนไทยบางคนคิด!!

184- เป็นเพื่อนกับคนนอร์ชง่ายนิดเดียว....แต่ต้องหลังจากการดื่มสุรานะ :D

185- สุนัขขึ้นรถสาธารณได้ แต่ต้องซื้อตั๋วเด็ก

186- ช่วงเข้าซัมเมอร์เดือนมิถุนายน มีลดราคาสินค้าราคาถูกมากๆ คล้ายๆ กับตอนช่วงสิ้นปีเลย

187- คนที่นี่ไม่ใช้แป้งฝุ่นทาตัว

188-  ไม่มีตลาดสัตว์เลี้ยงอย่างสวนจตุจักร ถ้าอยากซื้อสุนัข แมว ต้องดูจากในเว็บเท่านั้น

189-  กฏหมายแปลกข้อนึงที่นี่ ขายบริการได้ไม่ผิดกฎหมาย แต่คนซื้อผิด ถ้าตำรวจเห็น...โดน!


                            เราทำเอง น่ากินไหมเอ่ย พิเศษบะหมี่ 2 ก้อนเลย :D

190-  คนนอร์ชมักมีคำถามถึงคนไทยว่า ทำไมคนไทยกินเยอะ แล้วไม่อ้วน กินข้าวได้ตั้ง 3 มื้อ และกินจุกจิกทั้งวันแน่ะ? ในขณะที่คนนอร์ชกินขนมปัง สลัดเป็นอาหารหลัก (ตอบ ก็ไม่รู้สินะ และแอบอมยิ้มเบาๆ สงสัยคนไทยชอบกินรสจัด แล้วก็เข้าห้องน้ำบ่อย ก็เลยไม่อ้วนอะ เหอๆ)

191-  ประเทศนี้เด็กเยอะมากทั่วทุกหนทุกแห่ง เวลาขึ้นรถไฟฟ้าบ่อยครั้งที่แทบจะต้องเอามืออุดหูเลยล่ะ

192-  เข้าปั๊ม ต้องเติมน้ำมันเอง ไม่มีพนง.เหมือนพี่ไทย

193-  ใครขับจักรยาน ก็ต้องสวมหมวกเพื่อรักษาความปลอดภัย

194-  วงเวียนวนรถ บนถนนมีเยอะ  

195-  ถ้าวันนึงเราต้องนั่งแท๊กซี่กลับบ้าน ด้วยเหตุรถไฟฟ้าติงต๊อง บลาๆๆ เราสามารถส่งอีเมล์ไปร้องเรียนได้ และเราจะได้ค่าแท๊กซี่คืน แต่ต้องไม่เกิน 400 หรือ 500 kr. นี่แหละ  

196-  คนนอร์ชนิยมกินพิซซ่า และทาโก้ทุกวันศุกร์ หรือจะกินวันอื่นแล้วแต่กฎของแต่ละบ้าน

197-  ก่อนคู่บ่าวสาวจะแต่งงาน แต่ละฝ่ายญกับชาย... ฝ่ายหญิงจะแต่งตัวฮาๆ หรือแล้วแต่ตีมไหนก็ว่าไป ออกมาเดินในเมืองกับเพื่อนๆ ผู้หญิง ผู้ชายก็อาจจะมีปาร์ตี้สละโสด

198-  นิยมห่ออาหารไปกินที่โรงเรียนและที่ทำงาน

199- คนนอร์ชรักปาร์ตี้และการดื่มเป็นชีวิตจิตใจ

200-  บ้างชอบล่าสัตว์

201-  ถ้าพูดถึงช๊อคโกแลตของนอร์เวย์ต้องนึกถึง Kvikklunsj คล้ายกับคิตแคท
202-  ถ้าพูดถึงชีสของนอร์เวย์ต้องนึกถึง Brunost ชีสสีน้ำตาล

203-  ถ้าพูดถึงปลาของนอร์เวย์ต้องนึกถึง Laks ปลาแซลมอน

204-  ถ้าพูดถึงพิซซ่าที่ขายดีที่สุดในนอร์เวย์ต้องนึกถึง Grandiosa

205- จะทำงานอะไรที่นอเวย์ต้องจ่ายภาษีด้วย เรียกว่า เงินขาว

206- ถ้ารับเงินสด ไม่จ่ายภาษี ถือว่าผิดกฎหมาย เรียกว่า เงินดำ

207- ชุดแต่งกายพื้นเมืองดั้งเดิมเรียกว่า Bunad จะนิยมแต่งกันวันชาติ 17 mai. ชุดมีหลายแบบ จะแตกต่างกันไปตามเมืองที่อยู่

ตัวอย่างชุด Bunad (ยังมีอีกหลายแบบ)
http://krist.in/2010/04/30/hvilken-bunad-er-den-fineste/

208- มีวงดนตรีแนว Black Metal ดีๆ ดังๆ ไปทั่วโลกหลายวงเลยล่ะ

209- หลายประเทศพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ภาษานอร์ช พูดเหมือนร้องเพลง มีเสียงขึ้นๆ ลงๆ ตลอดเวลา

210- หลายคนชอบการออกกำลัง วิ่งจ๊อคกิ้ง ถีบจักรยาน ออกกำลังในสตูดิโอ หรือแค่เดินๆๆๆๆ บ่อยๆ ใช้บันไดมากกว่าบันไดเลื่อนหรือลิฝ  เพื่อให้ตัวเองมีหุ่นที่ดี ทั้งหญิงและชาย

211- ถึงหลายคนจะชอบกินพิซซ่า แต่พวกเค้าก็แคร์เรื่องสุขภาพเอามากๆ (ไม่ได้กินบ่อยๆ) 

212- ส่วนใหญ่ชอบทำตามกฎระเบียบซิกแซกแบบคนไทยไม่เป็น เช่น ขับรถไปซื้อเบียร์ที่สวีเดน เค้าบอกให้ซื้อไม่เกิน 4 ลิตร ก็ต้องไม่เกินนั้น จะไม่แอบซื้อ หรือหาทางซ่อน เป็นอันขาด


http://eplads.norden.org/nordenssprak/kap2/2a/06.asp

213- มีภาษาท้องถิ่นที่แตกต่างกันออกไปเยอะ....มาก!! ทั้งสำเนียง หรือคำที่ต่างกันออกไปเลย ฟังยากเหอะ 

214- เด็กต้องนอนเป็นเวลา 19.00 เพื่อวันรุ่งขึ้นตื่นไปเรียนจะได้ไม่ง่วง และพร้อมกับการเรียนเต็มที่

215- การหางานทำที่นี่ ถ้าไม่มีเส้น ก็เข้ายาก หรือเรียกอีกอย่างแบบไพเราะก็คือ ต้องรู้จักคนไว้เยอะๆ เพื่อที่เค้าจะสามารถชักจูงเราเข้าทำงานได้ (สำหรับเรา รู้จักแต่คนที่ชักจูงไม่ได้ 555 ก็ต้องไขว่คว้าหาเอง)

216- มีสิทธิมนุษย์ชน ให้ความเคารพซึ่งกันและกัน

217- มีความเท่าเทียมกัน ในเรื่องของเพศ การทำงาน รายได้ ฯลฯ

218- มีเสรีภาพในการนับถือศาสนา

219- คนที่นี่ชอบจุดเทียน และใช้ไฟสลัวๆ

220- คนสูงอายุบางคนใช้ไม้สกีค้ำพื้นเวลาเดิน

221- Tv1 ไม่มีโฆษณา

222- หนาวที่กทม. คือซัมเมอร์ของนอร์เวย์

223- หน้านสพ. ไม่โชว์ภาพหวาดเสียว หรืออุบัติเหตุหน้ากลัว

224- ไม่โชว์หน้าผู้กระทำผิด ถ้าไม่ใช่เหตุการณ์ใหญ่ๆ

225- ไม่ค่อยเปิดเผยข้อมูล เวลาแถลงข่าว เพราะจะเสียรูปคดี เค้าจะพูดแค่ว่า พูดได้แค่นี้ และผู้สื่อข่าวก็จะถามคล้ายๆ คำถามเดิม ตำรวจก็ตอบคำเดิม ว่าพูดได้แค่นี้ 


เข้าเรื่องประวัติศาสตร์กันสักนิด

http://hjorthen.org/?p=7825 
http://www.dagbladet.no/2009/10/28/nyheter/volvo/bil/8772718/
พริตตี้สมัยก่อน อิอิ

- ไวกิ้งเริ่มก่อนปี 800 ถึงปี 1050

- ไวกิ้งในประเทศนอร์ดิกมี เดนมาร์ค สวีเดน และนอร์เวย์

- ไวกิ้งทำอะไรบ้าง ปล้น ขโมย ในโบสถ์, พระราชวงศ์ ฆ่าคนและจับไปขายเป็นทาส


http://kids.britannica.com/comptons/art-151561/A-Viking-burial-ship-is-on-display-in-a-museum


- ปี  1380 ยูเนี่ยนกับเดนมาร์ค : และมีคิงร่วมกัน และการเขียนภาษานอร์ชเกือบจะหายไปในสมัยนั้น เพราะนิยมเขียนเป็นภาษาด๊านส์


- ปี 1800 สงครามในยุโรป เดนมาร์คและนอร์เวย์สนับสนุนฝรั่งเศส และสวีเดนสนับสนุนฝั่งตรงข้ามกับฝรั่งเศส สรุป เดนมาร์คและนอร์เวย์แพ้


https://snl.no/Norge_under_dansk_styre%2F1537-1814
คิงของเดนมาร์ค


- หลังจากแพ้สงคราม ก็ได้มีการประชุมพิจารณากันว่า เดนมาร์ค ต้องส่งนอร์เวย์ให้กับสวีเดน


- ปี 1814  ยูเนี่ยนกับสวีเดน : เกิดการรวมตัวกันของกลุ่มคนรวยๆ ในชุมชนของนอร์เวย์ที่ Eidsvoll เพื่อร่วมกันร่างรัฐธรรมนูญเป็นของประเทศนอร์เวย์ และก็เสร็จเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 1814.


https://snl.no/1814%2FDet_selvstendige_Norges_f%C3%B8dsel


- แต่ถึงนอร์เวย์จะมีรัฐธรรมนูญเป็นของตัวเองแล้ว แต่ก็ยังไม่เป็นอิสระจากสวีเดนอยู่ดี เฮ้อ...

- หลังจากนั้นก็เกิดสงครามในช่วงสั้นๆ ระหว่างสวีเดนกับนอร์เวย์ แต่ก็ยังเป็นยูเนี่ยนกันเหมือนเดิม

- การเป็นยูเนี่ยนกับสวีเดน นอร์เวย์ค่อนข้างมีอิสระเยอะ ได้มีรัฐธรรมนูญและยังได้รับการเก็บรักษาไว้สมัชชาแห่งชาติของตนด้วย


http://no.wikipedia.org/wiki/Karl_III_Johan
คิงจากสวีเดน Karl III Johan


- ปี 1846-1932 คนนอร์ชอพยพไปอยู่อเมริกาเป็นจำนวนมาก เพื่อต้องการมีชีวิตที่ดีขึ้นที่นั่น ประมาณ 850 000 คน (สมัยก่อนนอร์เวย์จนมากๆ ปลูกอะไรก็ยาก)


http://www.tv2.no/a/3501261


- ปี 1884 Stortinget ถูกตั้งให้เป็นรัฐสภาของนอร์เวย์  และหลังจากนั้น Stortinget ก็มีอำนาจมากขึ้นๆๆๆๆ จนเหนือสวีเดน 


http://www.oslobilder.no/search?searchstring=%221905%22


- ปี 1905 ในที่สุด นอร์เวย์ ก็เป็นอิสระ 100% จากสวีเดน และมีคิงเป็นของตัวเอง ฮูร่าาาาา

- ปี 1939 สงครามโลกครั้งที่สองมาครับท่าน (อุตส่าห์ได้อยู่สงบๆ นานๆ สักหน่อย มารมาผจญจนได้)

- 9 เมษ. 1940 เยอรมันเข้าโจมตีนอร์เวย์ , คิงและรัฐบาลนอร์เวย์ย้ายไปยังลอนดอน และทำการต่อต้านจากที่นั่น บ้างก็ย้ายออกไปประเทศอื่น บ้างก็เดินหน้าทำสงครามกับเยอรมัน หลังจากนั้น 5 ปี เยอรมันก็แพ้สงครามเอง


http://no.wikipedia.org/wiki/Norge_under_andre_verdenskrig


- อาชีพคนนอร์ชในสมัยนั้น คือ การเกษตร ป่าไม้ ประมง

- ปี 1970 มีชาวต่างชาติอพยพเข้ามาทำงานในนอร์เวย์มาก เช่น อัฟฟริกา เอเซีย ลาตินอเมริกา และโดยเฉพาะอย่างจากปากีสถานเยอะมาก

- ปี 1975 งานเริ่มหายากล่ะ เข้ามากันเยอะเกิ๊น

- ปี 1960 เริ่มออกค้นหาน้ำมันทางตอนเหนือ

- ปี 1969 เจอคับท่าน เจอน้ำมันและก๊าซ!! รวยๆๆ เลยนอร์เวย์ เหอๆๆ :D


http://www.dagbladet.no/2010/04/27/magasinet/oljehistorie/nordsjoen/olje/11471764/


          นอร์เวย์เป็นประเทศที่รวยก็จริง แต่ประเทศนี้เค้าอยู่กันแบบสมถะ ตึกราบ้านช่องไม่หวือหวา ผู้คนไม่นิยมแบรนด์เนมนัก และเน้นธรรมชาติสวยๆ อากาศสะอาด แต่ถ้าพูดกันถึงความแพงนั้น ที่อยู่ สินค้า อาหาร เครื่องดื่ม รถสาธารณ ภาษี.....ต้องกล่าวว่า สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับสู่นอร์เวย์ :D



          อ่านอย่างเดียว อย่าก๊อปปี้ไปเป็นของตัวเอง หรือดัดแปลงถ้อยคำของชั๊น เบื่อที่ต้องตามบ่นคนหน้าหนา 


ความรู้สังคมน่ารู้ของประเทศนอร์เวย์  คลิกที่ชื่อบทความ



บทความแนะนำ โดย All about Norway
คลิกที่ลิ๊งด้านล่างได้เลยจ้า 

การเรียนภาษา

การหางาน และ นาฟ

วีซ่า

ความรู้ทั่วไป

รีวิว ที่เที่ยวใน Oslo

64 kommentarer:

  1. ว้าว!! ประเทศเค้าเป็นระบบดีจังค่ะ
    ได้ความรู้ใหม่ๆ เยอะเลยค่ะ

    SvarSlett
    Svar
    1. ขอบคุณที่แวะมาอ่านนะคะ ระบบเค้าต่างจากประเทศไทยอย่างมากมายเลยค่ะ :)

      Slett
    2. ชอบจัง ขอบคุณที่แชร์ค่ะ

      Slett
  2. ขอบคุณครับ ให้ข้อมูลละเอียดมาก

    SvarSlett
    Svar
    1. ขอบคุณที่แวะมาอ่านค่ะ ข้อมูลจากประสบการณ์เลยละเอียดยิบเลย จะมาอัพเพิ่มเรื่อยๆ ถ้ามีอะไรใหม่ค่ะ

      Slett
  3. Svar
    1. Alta นี่ใกล้กับ สนามบิน Lufthavn รึเปล่าคะ

      Slett
  4. ขอบคุณที่แบ่งปันความรู้ค่ะ เขียนได้ละเอียดดีค่ะ

    SvarSlett
    Svar
    1. สวัสดีค่ะ ยินดีอย่างมากค่ะ :D

      Slett
  5. ชอบชอบ....หนูนาเขียนน่าอ่าน...อ่านแล้วนึกภาพออกเลย

    SvarSlett
    Svar
    1. ขอบคุณค่าาาา .... จะได้อ่านง่ายๆ เพลินๆ ไม่เครียดด้วย ^_^

      Slett
  6. ให้ความรู้ดีค่ะ เข้าใจง่าย สนุกด้วย

    SvarSlett
    Svar
    1. ขอบคุณค่ะ ที่แวะมาอ่าน อิอิ

      Slett
  7. ติดตามอ่านตั้งแต่ยังไม่ใด้มาอยู่นอร์เวย์ ใด้ไอเดียและประสบการณ์รับมือในบ้านใหม่เยะเลยจ้าาา

    SvarSlett
    Svar
    1. ค่าาาา อย่างน้อยจะได้รู้ว่าคนที่นี่เป็นยังไง เราจะได้ทำตัวถูกเนอะ ^_^

      Slett
  8. อ่านแล้วได้ความรู้เพิ่มขึ้นมากๆเลยคะ ^^
    พี่ค่ะ หนูของสอบถามหน่อยได้ไหมคะ คือหนูต้องทำสินค้าเสนออาจารย์
    โดยสินค้าที่หนูจะทำ ต้องให้มีความเหมาะสมกับประเทศนอร์เวย์ ในด้านเศรษฐกิจ ด้านการเมืองการปกครอง ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ และด้านสังคมคะ
    สินค้าที่ทำจะต้องให้มีคงามสอดคล้องกับทุกๆด้านของประเทศนอร์เวย์
    หนูรบกวนพี่หนูนาหน่อยนะคะ ^^ ขอบคุณมากๆค่ะ

    SvarSlett
    Svar
    1. ตอบไปในเฟสแล้วนะจ๊ะ หวังว่าจะเข้าท่ากับเสื้อกันหนาวลายไทย อิอิ

      Slett
  9. ขอบคุณมากๆนะคะ ได้ความรู้เยอะมากq
    ถ้าไม่ไปถึงที่นั่นก็คงไม่รู้ แต่พี่ทำให้กระจ่างเลยค่ะ ^_____^

    SvarSlett
  10. เจ๋งมากคะ เขียนได้เข้าใจง่ายสุดๆ อ่านเพลินเลยคะ พอดีกำลังหาข้อมูลนอเวย์ไปประกอบงานอยู่เชียว อิอิ ขอบคุณนะคะ

    SvarSlett
  11. ค่ะ ขอบคุณนะคะ ที่ชอบอ่าน :)

    SvarSlett
  12. ขอบคุณนะค่ะที่ได้รู้รายละเอียดของประเทศนอร์เวย์

    SvarSlett
  13. ดีจังค่ะ จะไปอยู่นอร์เวย์เร็วนี้

    SvarSlett
    Svar
    1. ค่าาา ขอให้ได้มาเร็วๆ นะคะ ^^

      Slett
  14. แวะเข้ามาอ่าน ยิ่งอยากไปนอร์เวย์ T T
    มองๆไว้อยากต่อโทที่ university of oslo
    ไม่รู้ว่าจะเป็นแค่ฝันมั้ย
    แต่อ่านแล้วกระตุ้นให้กระเตื้องตั้งใจเลยค่ะ 5555
    ขอบคุณมากค่ะ

    SvarSlett
    Svar
    1. มาเรียนนอร์เวย์ไม่ยากหรอกค่ะ สู้ๆ ทำได้อยู่แล้ว

      Slett
  15. ประเทศนี้น่าอยู่จริงๆค่ะ พอชก็อยูนอร์เวย์นะค่ะ ตอนนี้อยู่ molde แต่ว่าปีหน้าจะย้ายไปkristiansand เพราะแฟนได้งานใหม่ที่นี่ ถ้ามีโอกาส หวังว่าจะได้เจอคุณหนูนานะค่ะ

    SvarSlett
    Svar
    1. สวัสดีค่ะ ยินดีด้วยที่แฟนได้งานใหม่นะคะ ถ้าแวะมาเที่ยวแถว Oslo เรียกหาได้ค่ะ จะไปเจอแน่นอน :)

      Slett
  16. อยากมีเพื่อนที่นู้นจังจะได้ไปเที่ยวบ้าง..อ่านจนเพลินเลยค่ะ..ลืมง่วงเลย^-^

    SvarSlett
    Svar
    1. ค่าาา สวัสดีค่ะ ก็ลองหาดูเผื่อมีเพื่อนชวนมาเที่ยวที่ก็เป็นได้ :)

      Slett
  17. อ่านจนจบ ขอบคุณข้อมูลดี ๆๆ นะคะ

    SvarSlett
    Svar
    1. สวัสดีค่ะ ข้อมูลดีๆ ยาวเฟี๊อยเลย ดีใจที่อ่านจบจนนะคะ :)

      Slett
  18. ขอข้อมูลเกี่ยวกับรถโดยสารในออสโลได้ไหมค่ะ ขอบคุณค่ะ

    SvarSlett
    Svar
    1. อ่านอันนี้ยังคะ เผื่อมีประโยชน์ หรือไงฝากคำถามไว้ได้ค่ะ
      http://rockredrose.blogspot.no/2013/06/maps-for-tram-metro-bus-in-oslo-norway_6.html

      Slett
  19. สวัสดีครับน้องหนูนา....พี่อ่านทุกคอลัมน์ของน้องเลยครับมีประโยชน์มากๆ ข้อมูลละเอียดยิบเลยดีครับ...อัพเดดเรื่อยๆนะครับพี่จะติดตาม...พี่มีคำถามฝากน้องหนูนาหน่อยนะครับ...คือพี่มีน้าสาวอยู่ออสโลเค้าแต่งงานและได้สัญชาติแล้วครับอยู่มานาน...คือพี่จะพาลูกสาวไปเรียนต่อประถมที่ออสโลครับ ตอนนี้ลูกสาวพี่ 7 ขวบ ป 2 ครับ ถ้าจะไปเรียนที่โน่นต้องเรียนภาษานานมั๊ยครับ แล้วต้องไปเริ่มเรียน ป1 ใหม่หรือเปล่าครับ แล้วเป็นไปได้มั๊ยที่น้าสาวพี่จะทำเรื่องให้ลูกพี่เป็นบุตรบุญธรรมเพื่อใช้สิทธิ์เรียนฟรี รบกวนหน่อยนะครับ ขอบคุณมากครับ ^___^

    SvarSlett
    Svar
    1. สวัสดีค่ะ ขอบคุณนะคะที่ชอบข้อมูลที่เขียนเพื่อเป็นประโยชน์แก่ทุกๆ คน :D
      ส่วนเรื่องจะพาลูกสาวมาอยู่กับน้าสาว ไม่ง่ายค่ะ ต้องขอวีซ่านักเรียนตามปกติค่าใช้จ่ายค่าเรียนค่าอะไรจ่ายตามปกติเลย แต่ถ้าน้าสาวจะทำเอกสารรับเป็นลูกบุญธรรมก็สามารถมีโอกาสได้เรียนและติดตามแม่บุญธรรมมาอยู่ที่นี่ค่ะ

      Slett
  20. ขอบคุณมากนะครับสำหรับข้อมูล..^___^

    SvarSlett
    Svar
    1. ด้วยความยินดีค่ะ :D

      Slett
  21. เขียนเล่าไว้ละเอียดเข้าใจง่ายมากเลยค่ะ พอดีมีเรื่องอยากขอคำแนะนำหน่อยค่ะ ถ้าจะไปเรียนต่อที่นั้นจะหางานกับที่พักง่ายมั้ยคะ? พอจะมีคำแนะนำอะไรมั้ยคะ?

    SvarSlett
    Svar
    1. ไม่ง่ายทั้งสองแบบเลยค่ะ งานหายาก ที่พักหายาก แถมแพงด้วย ไม่รู้จะแนะนำยังไง ที่พักกับงานก็หาในเน็ตได้ค่ะ Finn.no

      Slett
  22. กำลังเตรียมตัวจะเดินทางไปทำงานที่นั้น อยากขอคำปรึกษาหลายเรื่องเลยครับ

    SvarSlett
    Svar
    1. สวัสดีค่ะ ถามได้เลยนะคะ เดี๋ยวจะมาตอบ :D

      Slett
  23. ผมเป็นคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตอยู่ในนอร์เวย์ ประเทศนี้ อากาศ บริสุทธิ์จริงๆครับ อ้อผมอยู่ Åndalsnes หากแวะมาทางนี้ยินดีต้อนรับครับ มาแล้วอย่าลืมแวะเที่ยว Trollstigen นะครับ

    SvarSlett
    Svar
    1. ค่ะ ขอบคุณค่ะ :D

      Slett
    2. รบกวนสอบถามหน่อยค่ะ ไม่ทราบว่าคุณJackcula ทำงานหรือเรียนอยู่คะ

      Slett
  24. รบกวนถามแอดมินค่ะ พอดีมีเพื่อนมาจากออสโลมาเที่ยวไทยตอนนี้ อยากทราบว่าการจากลาแบบไหนที่ดูเป็นกันเองและประทับใจมากที่สุดคะ แบบว่าซื้อของให้หรือทำกิจกรรมอะไรดี ไม่รู้จิงๆว่าจะทำอะไรให้เค้าดีค่ะ555เพราะไม่เคยรู้จักคนนอร์เวย์มาก่อน รบกวนด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ

    SvarSlett
    Svar
    1. สวัสดีค่ะ ซื้อของขวัญเล็กๆ น่ารัก ให้เค้าก็ถือว่าเป็นไอเดียที่ดีนะคะ เค้าจะได้นึกถึงเวลาเค้าอยู่นอร์เวย์ :D

      Slett
  25. อ่อค่ะ ได้ไอเดียแล้วค่ะ ขอบคุณค่ะ

    SvarSlett
  26. สวัสดีค่ะ เราชื่อ จุ๊บแจงนะ พอดีมีพี่สาวแต่งงานอยู่นอร์เวย์ เราเป็นพยาบาลที่เมืองไทย เค้าอยากให้เราไปทำงานที่โน่น แต่เราไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง ช่วยอนะนำหน่อยได้มั้ยคะ

    SvarSlett
  27. ข้อมูลดีมีสาระ น่าอ่าน เข้าใจง่ายแช์ขออนุญาติแชร์นะคะ

    SvarSlett
  28. ข้อมูลดีมีสาระ น่าอ่าน เข้าใจง่ายแช์ขออนุญาติแชร์นะคะ

    SvarSlett
  29. ค่ะจะไปเรียนต่อ ม.ปลายต้องทำไงบ้างค่ะ

    SvarSlett
    Svar
    1. อยากถามรายละเอียดอีกเยอะเลยค่ะขอเฟสบุ๊คได้ไหมค่ะ

      Slett
  30. ขอบคุณค่ะ มีโอกาสจะไป เท่วบ้างจังค่ะ สวยๆ รอฟังผลวีซ่า อยู่ค่ะ ถ้าโอกาสมี ได้ไปแน่ค่ะ อยากไปจัง..

    SvarSlett
  31. ขอบคุณค่ะ มีโอกาสจะไป เท่วบ้างจังค่ะ สวยๆ รอฟังผลวีซ่า อยู่ค่ะ ถ้าโอกาสมี ได้ไปแน่ค่ะ อยากไปจัง..

    SvarSlett
    Svar
    1. ขอให้ได้วีซ่าไวๆ นะคะ ช่วงนี้วีซ่ารอนานมาก บางคนรอถึง 15 เดือนก็มี

      Slett
  32. สวัสดีค่ะ สอบถามเรื่องวีซ่าท่องเที่ยวสำหรับเด็กอายุ 18 ปี ต้องมีใบรับรองหรือยินยอมจากพ่อแม่มั๊ยค่ะ

    SvarSlett
    Svar
    1. ถ้าอายุแล้ว 18 ก็ไม่ต้องค่ะ

      Slett
  33. ขอบคุณครับละเอียดยิบเลยพึ่งมานอร์เวย์ครั้งแรกด้วย ดีมากๆครับ

    SvarSlett
  34. ไปกินเหล้า สังสรรค์ ปาร์ตี้ วันเกิด งานแต่ง ถือเหล้าไปเอง เพราะที่นี่เอลกอฮอล์แพงม๊าก

    SvarSlett
  35. เป็นความรู้มากเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ ขอแชร์นะคะ
    ชอบดูคุณนีน่าสอนภาษาด้วยค่ะ ในยูทูป
    ขอบคุณที่สละเวลามาให้ความรู้กับพวกเรานะคะ

    SvarSlett
  36. เป็นความรู้มากเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ ขอแชร์นะคะ
    ชอบดูคุณนีน่าสอนภาษาด้วยค่ะ ในยูทูป
    ขอบคุณที่สละเวลามาให้ความรู้กับพวกเรานะคะ

    SvarSlett